Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล
พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล
พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล
Ebook184 pages24 minutes

พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล

Rating: 0 out of 5 stars

()

Read preview

About this ebook

"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"

Languageภาษาไทย
Release dateMay 8, 2018
ISBN9781641347860
พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล
Author

Dag Heward-Mills

Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.

Related to พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล

Related ebooks

Reviews for พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล

Rating: 0 out of 5 stars
0 ratings

0 ratings0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    พลิกฟื้นพันธกิจศิษยาภิบาล - Dag Heward-Mills

    ตอนที่ 1

    การรับใช้ที่แท้จริง

    บทที่ 1

    ทำไมคุณจึงควรหลีกเลี่ยงการรับใช้ที่จอมปลอม

    ในพันธสัญญาเดิม สัญลักษณ์ของการรับใช้ที่แท้จริงคือทองคำในพระวิหาร สิ่งของที่สำคัญทุกอย่างในพระวิหารจะถูกบุด้วยทองคำบริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานการออกแบบพระวิหารนั้นให้แก่โมเสส

    พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า "จงบอกชนชาติอิสราเอลให้นำของมาถวายเรา ของนั้นให้รับมาจากทุกๆ คนที่เต็มใจถวาย แล้วให้พวกเขาสร้างสถานนมัสการสำหรับเรา เพื่อเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขา แล้วเจ้าจงทำพระที่นั่งกรุณาด้วยทองคำบริสุทธิ์ยาว 110 เซนติเมตรกว้าง 66 เซนติเมตร แล้วจงตั้งพระที่นั่งกรุณานั้นไว้บนหีบ จงเก็บพระโอวาทซึ่งเราจะให้แก่เจ้าไว้ในหีบนั้น เราจะพบกับเจ้า ณ ที่นั้นคือที่เหนือพระที่นั่งกรุณา...

    อพยพ 25:1,2,8,17,21,22

    พระเจ้าทรงประสงค์ให้พระวิหารมีลักษณะเช่นนั้น ไม่มีมนุษย์คนใดมีสิทธิที่จะใส่รูปแบบของตัวเองเข้าไปเปลี่ยนแปลงแผนแม่บทของพระเจ้าได้ เมื่อกษัตริย์ซาโลมอนทรงสร้างพระวิหาร ท่านก็ทำตามแผนงานของพระเจ้าทุกตัวอักษร

    ห้องชั้นในสุดนั้นยาว 9 เมตรกว้าง 9 เมตรและสูง 9 เมตร และพระองค์ทรงบุที่นั่นด้วยทองคำบริสุทธิ์ พระองค์ทรงบุแท่นบูชาด้วยไม้สนสีดาร์ด้วย และซาโลมอนทรงบุข้างในพระนิเวศด้วยทองคำบริสุทธิ์ และพระองค์ทรงขึงโซ่ทองคำหน้าห้องชั้นในสุดซึ่งบุด้วยทองคำ และพระองค์ทรงบุพระนิเวศทั้งหลังด้วยทองคำ จนพระนิเวศนั้นสำเร็จทั้งสิ้นพระองค์ก็ทรงบุแท่นบูชาทั้งแท่นที่เป็นของห้องชั้นในสุดด้วยทองคำ ในห้องชั้นในสุดพระองค์ทรงสร้างเครูบสองรูปด้วยไม้มะกอก แต่ละตัวสูง 4.5 เมตร และพระองค์ทรงบุเครูบด้วยทองคำ พื้นของพระนิเวศนั้นพระองค์ทรงบุด้วยทองคำทั้งข้างในและข้างนอก

    1 พงศ์กษัตริย์ 6: 20-23,28,30

    ซาโลมอนทรงทำเครื่องใช้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์คือแท่นบูชาทองคำและโต๊ะทองคำที่ใช้วางขนมปังเฉพาะพระพักตร์ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์อยู่หน้าห้องชั้นในสุดด้านขวาห้าอันด้านซ้ายห้าอัน ดอกไม้ ตะเกียง และคีมล้วนทำด้วยทองคำ ถ้วย ตะไกรตัดไส้ตะเกียง ชาม ชามเล็ก และกระถางไฟทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ และบานพับทองคำสำหรับประตูของส่วนชั้นในพระนิเวศคืออภิสุทธิสถาน และสำหรับประตูห้องโถงของพระวิหาร

    1 พงศ์กษัตริย์ 7:48-50

    หลายปีต่อมา กษัตริย์อีกองค์หนึ่งได้เอาทองสัมฤทธิ์มาแทนทองคำ ทองสัมฤทธิ์มองดูเหมือนทองคำมาก มันมีความ ใกล้เคียงและคล้ายคลึงกัน แต่มันก็ไม่ใช่ทองคำ กษัตริย์เรโหโบอัมนำเอาทองสัมฤทธิ์เข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า มันอาจจะมองดูเหมือนของจริง แต่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยกับสิ่งนี้ ทองสัมฤทธิ์เป็นโลหะผสมที่ประกอบด้วยทองแดงและสังกะสี ในความเป็นจริง ทองสัมฤทธิ์แตกต่างจากทองคำบริสุทธิ์มาก! หลายคนถูกหลอกเมื่อของจริงถูกแทนที่ด้วยของปลอม นั่นคือเหตุผลที่ผมเขียนหนังสือเล่มนี้

    ชิชักกษัตริย์อียิปต์เสด็จขึ้นมารบกับกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์ทรงเอาทรัพย์สมบัติแห่งพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และทรัพย์สมบัติแห่งพระราชวังไป พระองค์ทรงเอาไปทุกอย่าง และทรงเอาโล่ทองคำที่ซาโลมอนทรงสร้างไว้นั้นไปด้วย และ กษัตริย์เรโหโบอัมทรงทำโล่ทองสัมฤทธิ์ขึ้นแทน และมอบไว้ในมือของทหารรักษาพระองค์ผู้เฝ้าประตูพระราชวัง

    2 พงศาวดาร 12:9-10

    หนังสือเล่มนี้ตลอดทั้งเล่ม ผมต้องการที่จะช่วยให้คุณเก็บรักษาทองคำไว้ในพระวิหาร คุณไม่ต้องเอาอะไรมาทดแทนการรับใช้ที่แท้จริงตามพระคัมภีร์ เหมือนกับในกรณีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญที่คนธรรมดามักจะไม่รู้จริงเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทำ ตัวอย่างเช่นคนธรรมดาย่อมไม่รู้จริงในสิ่งนักบินหรือแพทย์รู้ มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่กำลังเข้าสู่งานรับใช้ที่จะรู้จริงทั้งหมดเกี่ยวกับงานรับใช้นั้น!

    ผมรู้ว่าหลายคนชอบที่จะทำอะไรในลักษณะที่ลึกลับลอยฟ้า พวกเขาทำเช่นนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในอาชีพการงาน แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงขอให้ผมที่จะสอนคุณว่าหน้าที่ที่แท้จริงของศิษยาภิบาลคืออะไร ในหนังสือเล่มนี้ ผมจะไม่เขียนครอบคลุมทุกรายละเอียดของการทำงานของศิษยาภิบาล ผมเพียงแค่จะบอกสิ่งที่สำคัญกับคุณเท่านั้น

    ผมอธิษฐานขอให้คุณเชื่อในการรับใช้แบบง่ายๆ ผมรู้ดีว่าผู้คนมักจะชอบทำให้หลักคำสอนมีความซับซ้อนเพื่อจะสอนความจริงที่ง่ายๆ พวกเขารู้สึกว่ายิ่งคำสอนมีความซับซ้อนมากเท่าใด ก็จะยิ่งดูเหมือนว่ามาจากพระเจ้ามากขึ้น แต่ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มักจะง่ายพอสำหรับคนธรรมดาทั่วไปที่จะเข้าใจได้

    ในหนังสือกิจการ เปโตรและอัครสาวกคนอื่นๆ ได้มาถึงทางแยกของงานรับใช้ ที่ทางแยกนั้น พวกเขาต้องตัดสินใจเลือกว่าจะไปทิศทางใด พวกเขาจะต้องตัดสินใจว่า พวกเขาจะเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริงหรือผู้บริหารงานฝ่ายโลก แต่พวกเขาก็เลือกงานรับใช้ที่แท้จริง!

    อัครทูตทั้งสิบสองคนจึงเรียกพวกสาวกมาประชุมกัน แล้วกล่าวว่า การที่เราจะละเลยพระวจนะของพระเจ้ามัวไปแจกอาหารก็ไม่สมควร เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลายจงเลือกเจ็ดคนในพวกท่านที่มีชื่อเสียงดีเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และสติปัญญา เราจะตั้งให้พวกเขาดูแลงานนี้ ส่วนเราจะอุทิศตัวในการอธิษฐานและในพันธกิจด้านพระวจนะ

    กิจการ 6:2-4

    คุณจะต้องสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างงานรับใช้ที่แท้จริงกับงานรับใช้จอมปลอมให้ได้ งานรับใช้จอมปลอมไม่ได้เป็นของจริง! เหมือนกับทองสัมฤทธิ์ที่ไม่มีค่าที่เอามาแทนทองคำ มันดูใกล้เคียงและคล้ายคลึงกันกับของจริง มีหลายสิ่งที่ดูเหมือนแต่ก็ไม่ใช่งานรับใช้ที่แท้จริง

    ยกตัวอย่างเช่น การเป็นผู้บริหารของคริสตจักรทำให้คุณไม่ว่างที่จะทำงานรับใช้ ศิษยาภิบาลหลายคนเป็นผู้บริหารงานตัวยง เราจะเห็นพวกเขายุ่งวุ่นวายอยู่กับงานสำนักงานของคริสตจักร ในทางจิตวิทยา พวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังทำงานเพื่อพระเจ้า จนในที่สุด คนอื่นที่เหลือในโลกก็อยู่ในสำนักงานและนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ดูเหมือนทุกคนจะมีอะไรบางอย่างสำคัญที่จะต้องทำในช่วงเวลาเก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นทุกวัน พวกเขาไปที่นั่นเพื่อทำงานเป็นเลขานุการ คนรักษาความปลอดภัย คนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอื่นๆ ถ้าไม่ได้เห็นศิษยาภิบาลทำบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายๆ กันนี้ เขาจะรู้สึกว่าศิษยาภิบาลว่างงาน มีคนมากดกริ่งที่หน้าบ้านผมตอนสิบเอ็ดโมงเช้า พวกเขาถามว่าผมยังหลับอยู่หรือเปล่า พวกเขาคิดว่าผมเป็นศิษยาภิบาลที่นอนหลับตลอดทั้งสัปดาห์

    ผู้รับใช้แห่งข่าวประเสริฐที่รัก อย่าเปลี่ยนไปตามความคิดเห็นของผู้คน อย่ายอมจำนนต่อแรงกดดันตามวิถีโลก มันเป็นผู้ครอบครองที่มีอำนาจในฟ้าอากาศที่ควบคุมและชี้นำโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ถูกควบคุมจากมิติฝ่ายวิญญาณ ซาตานเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดและหลอกลวงคนทั้งโลก แต่การหลอกลวงนี้จะต้องไม่เข้ามาในคริสตจักร

    เมื่อก่อนพวกท่านเคยดำเนินชีวิตในการบาปนั้น ตามวิถีของโลกนี้ ตามผู้ครอบครองที่มีอำนาจในฟ้าอากาศคือวิญญาณที่ทำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่เชื่อฟังในเวลานี้

    เอเฟซัส 2:2

    โลกถูกหลอกลวงให้คิดว่าไม่มีชีวิตหลังความตาย จงกิน ดื่มและรื่นเริงเถิด เพราะพรุ่งนี้เราจะตาย! เมื่อคุณตาย คุณจะตายเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง! สวรรค์อยู่บนโลกและนรกก็อยู่บนโลก! ชีวิตขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณทำ! คำขวัญที่ลึกซึ้งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อมวลชนให้มีชีวิตที่พยามยามแสวงหาเงินและความพอใจ

    เมื่อความคิดแบบนี้เข้ามาในคริสตจักร คนจึงรู้สึกว่ามีเพียงสิ่งที่เป็นวิถีทางโลก (ไม่ใช่ฝ่ายวิญญาณ) เท่านั้นที่มีความสำคัญ แม้ศิษยาภิบาลจะอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต้องซื้อคอมพิวเตอร์และนั่งในสำนักงานเหมือนกับคนอื่นๆ แต่เราไม่ได้เป็นเหมือนกับ คนอื่นๆ! เราเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระเจ้า!

    ผู้เลี้ยงแกะเป็นคน สกปรก ที่อาศัยอยู่ท่ามกลางฝูงแกะ ผู้เลี้ยงแกะเป็นคนที่ให้ชีวิตของเขาเพื่อฝูงแกะ ผู้เลี้ยงแกะไม่ใช่คนที่อยู่ในเก้าอี้ผู้บริหาร!

    เมื่อคุณประกาศว่า งานของคุณคือการอธิษฐาน คุณก็จะดูแปลกประหลาดไปในทันที! เจ้าหน้าที่ของรัฐก็กล้าที่จะแนะนำให้คริสตจักรใช้เวลาทำสิ่งที่ เกิดผล มากกว่าแน่นอน! จะมีอะไรที่ทำให้เกิดผลได้มากกว่าการอธิษฐานล่ะ? ทำไมเราจึงควรฟังคนที่ไม่เชื่อบอกวิธีการทำหน้าที่ของเรา? ทำไมต้องให้คนที่ไม่มีชีวิตในทางของพระเจ้ามาสอนคริสตจักรให้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างนั้นหรือ?

    การที่ผู้รับใช้จำนวนมากเพิกเฉยต่อพระมหาบัญชานั้นทำให้คริสตจักรตกอยู่ภายใต้ความกดดัน พระมหาบัญชาคือคำสั่งสำคัญสูงสุดจากพระองค์ผู้เป็นศีรษะของคริสตจักร

    เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค"

    มัทธิว 28:19-20

    อ่านพระคัมภีร์ตอนนี้ด้วยตัวคุณเอง! ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดเจนมาก! ไม่มีการกล่าวถึงงานเกี่ยวกับสังคม สุขภาพ หรือการศึกษา สุขภาพและการศึกษาอาจจะเป็นผลพลอยได้ของพระมหาบัญชา แต่เราต้องไม่เอาสิ่งที่เป็นผลพลอยได้มาเป็นงานหลัก!

    ในทุกวันนี้ คริสตจักรส่วนใหญ่ที่มีโรงพยาบาล โรงเรียน องค์การบรรเทาทุกข์ และสโมสรมากขึ้น แต่ช่างน่าเสียดาย! คุณจะพบว่าองค์การสุขภาพโลกและสถาบันการศึกษาเพิกเฉยต่องานประกาศพระวจนะของพระเจ้า! ซาตานยิ้มด้วยความพอใจที่ผู้รับใช้แห่งข่าวประเสริฐได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นนักการเมือง นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทองคำของการรับใช้ถูกแทนที่ด้วยทองสัมฤทธิ์!

    ทัศนคติเช่นนี้ได้ถูกซึมซับลงไปในคริสเตียนทั่วไป วันหนึ่ง นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งได้รายงานเรื่องราวจากมหาวิทยาลัยให้ผมฟัง

    เขากล่าวว่า อาจารย์ครับ พระเจ้ากำลังเคลื่อนไหวในมหาวิทยาลัย!

    ผมกล่าวว่า จริงๆ หรือ เกิดอะไรขึ้น?

    เขากล่าวว่า พระเจ้ากำลังทำงานของพระองค์ครับ!

    ดังนั้น ผมจึงถามว่า พระเจ้าเคลื่อนไหวยังไงเหรอ? พระองค์กำลังทำงานอะไร?

    เขาบอกกับผมว่า คนจะสอบผ่านกันครับ

    ผมก็ผงะ การสอบหรือ?

    ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้พูดออกมา แต่ผมก็คิดในใจว่า เมื่อพระเจ้าทรงเคลื่อนไหว ผู้คนก็ได้รับความรอดและเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ การผ่านการสอบเป็นพระพรจากพระเจ้า แต่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของพระเจ้า อย่าให้เราสับสนเกี่ยวกับการทำงานของพระเจ้า ขอให้เราเข้าใจสิ่งที่พระคัมภีร์สอนเกี่ยวกับงานรับใช้ อย่าเข้าใจผิดว่าทองสัมฤทธิ์เป็นทองคำ ขอให้เรานำทองคำเท่านั้นเข้าไปในพระวิหาร เพื่อหลีกเลี่ยงการพิพากษาอย่างเรโหโบอัม

    ผมอธิษฐานว่า เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ศิษยาภิบาล ผู้เลี้ยง และผู้นำคริสตจักรควรจะทำ นี่เป็นเวลาที่จะออกจาก งานรับใช้จอมปลอม เราไม่สามารถที่จะเร่งการกลับมาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าด้วยสิ่งที่มีลักษณะเหมือนของจริง แต่ไม่ได้เป็นของจริง

    เหตุผล 3 ประการ

    โดยสรุป มี 3 เหตุผลที่ทำไมเราจึงควรหลีกเลี่ยงงานรับใช้จอมปลอม

    1. คริสตจักรเป็นสถาบันเดียวเท่านั้นที่ได้รับพระบัญชาให้ประกาศข่าวประเสริฐและสร้างทุกชนชาติให้เป็นสาวก ไม่มีใครจะทำหน้าที่แทนเราได้!

    2. เราต้องไม่พยายามทำให้โลกนี้ประทับใจเราด้วยการทำสิ่งที่พวกเขาต้องการให้เราทำ พระเจ้าทรง

    เป็นผู้เดียวที่ทรงเรียกเรา และพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่เราจะต้องแสวงหาความพอพระทัย

    3. เราสามารถเอาชนะซาตานและสมุนของมันได้ด้วยงานรับใช้ที่แท้จริง! งานรับใช้จอมปลอมไม่มีส่วนในมหาสงครามในวาระสุดท้ายนี้

    ผมมีรหัสเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณและผมที่จะระลึกถึงหน้าที่ของศิษยาภิบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้า และรหัสนั้น คือ อ. สำหรับ การอธิษฐาน ย. สำหรับ การเยี่ยมเยียน ส. สำหรับ การสอน (การให้คำปรึกษาและการเทศนา) และ ป.สำหรับ การมีปฏิสัมพันธ์ ( อ.ย.ส.ป.)

    บทที่ 2

    วิธีการที่คุณจะบรรลุความเป็นเลิศในการรับใช้

    คุณสามารถบรรลุความเป็นเลิศในการรับใช้ได้! การรับใช้ของคุณต้องไม่เป็นแค่ธรรมดาๆ แต่คุณจะต้องตระหนักถึงความเป็นเลิศที่จะต้องทำให้สำเร็จตามมาตรฐานของพระเจ้า และไม่ใช่ตามมาตรฐานของมนุษย์ ในบทสั้นๆ นี้ ผมต้องการที่จะแสดงให้คุณเห็นถึงหลักสำคัญ 4 ประการที่นำมาสู่ความเป็นเลิศในพระราชกิจของพระเยซู

    พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเราทุกคน พระเจ้าได้ทรงประทานพระองค์แก่เรา เพื่อให้เราสามารถมองเห็นได้ว่าพระเจ้าทรงมีพระลักษณะอย่างไร ในทุกสถานการณ์ เรามีแบบอย่างที่ดีที่สุดที่จะปฏิบัติตาม

    พระบุตรทรงเป็นแสงสว่างแห่งพระสิริของพระเจ้าทรงมีแก่นแท้เดียวกับพระเจ้า...

    ฮีบรู 1:3

    จงจำไว้! เมื่อคุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จงทำในสิ่งที่พระเยซูได้ทรงกระทำแล้ว พระเยซูทรงเป็นพระผู้เลี้ยงที่ดี (ยอห์น 10:11) พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของศิษยาภิบาลที่คุณเคยมี คุณเป็นศิษยาภิบาลที่ดีไหม? ใครรับรองงานรับใช้ของคุณ พระเจ้าหรือมนุษย์? พระเยซูจะตรัสว่า "ดี​แล้ว

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1