Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต
หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต
หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต
Ebook544 pages56 minutes

หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต

Rating: 0 out of 5 stars

()

Read preview

About this ebook

เธอซึ่งเป็นหมอเทวดามือฉมังสืบเชื้อสายมาจากครอบครัวตระกูลขุนนางฝ่ายบู๊อันยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ ถึงกับทะลุมิติมายังราชวงศ์เป่ยหมิงอ๋อง ทั้งยังกลายเป็นสาวอัปลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรังเกียจจนอยากจะอาเจียน
ตอนนี้นางเป็นหมากของบิดาและฮ่องเต้ ถูกยัดใส่เกี้ยวแต่งงานส่งไปที่จวนอ๋องของเจียงอู๋วั่ง ซึ่งเป็นอ๋องพิการ ให้เป็นเครื่องมือสร้างความอับอายให้กับเจียงอู๋วั่ง
โชคดีที่แหวนอวกาศของนางก็ทะลุมิติมาที่นี่ด้วย! ในแหวนมียาสมุนไพร อาวุธ กระสุนและสิ่งจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย
นางมีทุกอย่าง! เฮ้ ด้วยของวิเศษเช่นนี้ นางจะกลัวอะไรอีก จ้านอ๋องผู้พิการนั่น ไหนเล่ากันว่าไม่ชอบผู้หญิงใกล้ตัว ทำไมมายุ่งกับนางทุกวันเลย

Languageภาษาไทย
PublisherPublishdrive
Release dateFeb 3, 2023
หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต

Related to หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต

Titles in the series (1)

View More

Related ebooks

Related categories

Reviews for หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต

Rating: 0 out of 5 stars
0 ratings

0 ratings0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต - popnovel

    สารบัญ

    บทที่ 1 ถูกบีบให้แต่งงานหลังข้ามมิติมา

    บทที่ 2 เอาชนะเวทมนตร์ด้วยเวทมนตร์

    ตอนที่ 3 หวางเฟยเป็นวรยุทธ

    บทที่ 4 ผูกมิตรกับจ้านอ๋อง

    บทที่ 5 หวางเฟย ข้าขอกราบท่านเป็นอาจารย์

    บทที่ 6 ขับออกจากจวน

    บทที่ 7 ขับซูมู่เสวี่ยออกไปจากจวน

    บทที่ 8 ละครปาหี่หน้าจวนโหว

    บทที่ 9 บิดามารดาแยกทาง

    บทที่ 10 ทรัพย์สินครึ่งหนึ่ง

    บทที่ 11 โรคหอบหืดของฮ่องเต้

    บทที่ 12 ช่วยชีวิตหรงเฟย

    บทที่ 13 ลากตัวคนร้ายออกมา

    บทที่ 14 ได้เห็ดหิมะมาครอง

    บทที่ 15 ใครอยากดึงดูดความสนใจของท่านกัน

    บทที่ 16 ตบหน้ารัชทายาท

    บทที่ 17 ช่วยเหลือหลินชิงไต้

    บทที่ 18 ระเบิด

    บทที่ 19 กรีดเลือดให้ซ่งเว่ยหลิง

    บทที่ 20 ใบหน้าหายเป็นปกติ

    บทที่ 21 รักษาโรคให้ท่านตา

    บทที่ 22 พบฮูหยินแม่ทัพโดยบังเอิญ

    บทที่ 23 แม่ทัพเซียว

    บทที่ 24 เรียนท่านอ๋อง หวางเฟยพาบุรุษกลับจวนมาคนหนึ่ง

    บทที่ 25 นี่หวางเฟยจะน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง

    บทที่ 26 ขายหน้ายันสมัยโบราณ

    บทที่ 27 เสี่ยวเถาจื่อ

    บทที่ 28 แม่ผัวลูกสะใภ้พบหน้า

    บทที่ 29 แม่สามีคนนี้ข้าชอบ

    บทที่ 30 ปีนขึ้นเตียงเขา

    บทที่ 31 หมอบลง ผีสางอะไรกัน

    บทที่ 32 ช่องมิติเลื่อนระดับ

    บทที่ 33 ไล่สตรีเหล่านั้นออกจากจวนจ้านอ๋องให้หมด

    บทที่ 34 เรื่องของสตรีควรยุ่งให้น้อย

    บทที่ 35 ข้าจะไปถล่มรังโจรของพวกมัน

    บทที่ 36 ถึงกับยังมีปลาหลุดรอดตาข่าย

    บทที่ 37 หม้อไฟคือสิ่งใดกัน

    บทที่ 38 เป็นคนประเภทไหนกันแน่

    บทที่ 39 หลินชิงไต้แต่งงาน

    บทที่ 40 เงินนี้หาได้ง่ายดายเกินไปหรือไม่

    บทที่ 41 ที่สตรีผู้นี้พูดมามีเหตุผลยิ่ง

    บทที่ 42 ถอดอาภรณ์ออกให้หมด

    บทที่ 43 แก้พิษอย่างไรถึงปีนขึ้นเตียงอีกแล้ว

    บทที่ 44 สมองของสตรีผู้นี้หน้าตาเป็นเช่นไรกัน

    บทที่ 45 เป็นเปิ่นหวังที่มอบให้

    บทที่ 46 แม่เจ้าตามเจ้ากลับไปกินข้าว

    บทที่ 47 ได้ลาภก้อนโต

    บทที่ 48 เก็บเกี่ยวจากชาวประชา ก็ควรนำมาใช้กับชาวประชา

    บทที่ 49 โรงหมอเปิดกิจการ

    บทที่ 50 ตายแล้วฟื้น

    บทที่ 51 ชีวิตเจ้าสำคัญกว่าหรือเงินสำคัญกว่า

    บทที่ 52 ราชทูตแคว้นซินหลัว

    บทที่ 53 งานเลี้ยงในวัง ตกตะลึงทั้งงาน

    บทที่ 54 เปิ่นหวางอนุญาตให้เจ้าไปได้แล้วหรือ

    บทที่ 55 ร่ายรำจนตกเลือด

    บทที่ 56 ท่านอ๋องกินน้ำส้ม(หึง)

    บทที่ 57 สมกับที่เป็นหวางเฟยของเปิ่นหวัง

    บทที่ 58 หมอเทวดาน้อยเหรินซินออกเดินทางไกล

    บทที่ 59 เจ้าถึงกับใช้เปิ่นหวางไปขุดรูเชียวหรือ

    ตอนที่ 60 ใช่ว่าไม่เคยหลับนอนด้วยกันเสียหน่อย

    บทที่ 61 หุบเขาลืมทุกข์

    บทที่ 62 บะหมี่น่องไก่ เจ้าอยากกินไหม

    บทที่ 63 ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าข้าไม่มีความสามารถโยนท่านออกไปหรือ

    บทที่ 64 เจ้ารอเปิ่นหวางก่อน

    บทที่ 1 ถูกบีบให้แต่งงานหลังข้ามมิติมา

    คุณหนู คุณหนูท่านช่างตายได้น่าเวทนาเหลือเกิน!

    เจ้าบอกว่าตายก็ตายแล้วรึ แล้วจะให้เราอธิบายกับท่านโหวและท่านอ๋องจ้านอย่างไรเล่า! วันมหามงคลเช่นนี้ ไฉนถึงโชคร้ายนัก!

    เสียงร้องไห้โหยหวนทำให้หัวสมองของซ่งหวานหว่านแทบระเบิด เธอเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมาด้วยความยากลำบาก สิ่งที่เข้าสู่ครรลองสายตาคือใบหน้าขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่แต่งหน้าเสียจนหนาเตอะ

    แย่แล้ว ตกใจแทบตายแน่ะ!

    เธอยกมือขึ้นแล้วพูดว่า เลิกโวยวายได้แล้ว ออกไปห่างๆ หน่อย!

    เมื่อประโยคนี้หลุดออกมา เสียงร้องไห้ภายในห้องก็หยุดชะงักลงทันควัน บรรดาสาวใช้และบ่าวหญิงอาวุโสที่กำลังจับเธอเขย่าไปมากลุ่มนั้น พากันถอยห่างออกมาในชั่วพริบตา ราวกับว่าพวกเขากำลังหนีตายจากโรคระบาดก็มิปาน

    ซ่งหวานหว่านถูกพวกนางโยนทิ้งจนก้นระบมไปหมด

    เธอเจ็บจนต้องกัดฟันสูดปาก เมื่อกวาดตามองไปรอบๆ ก็มีเครื่องงุนงงใหญ่เลย

    นี่ นี่ นี่ นี่เธออยู่ที่ไหนกัน

    ห้องที่มีกลิ่นอายโบราณแบบนี้ เธอหลุดมาอยู่ที่ไหนกัน แล้วคนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้านี้อีก ทำไมพวกเขาถึงใส่ชุดโบราณกันหมด กำลังถ่ายทำละครกันอยู่เหรอ

    ขณะที่เธอกำลังตกใจอยู่นั้น จู่ๆ สมองพลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา และความทรงจำแปลกๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธอ

    เธอซ่งหวานหว่าน ได้ทะลุมิติเข้ามาอย่างเป็นทางการ!

    เนื่องจากถูกฟ้าผ่าขณะข้ามถนนในวันที่ฝนตก เธอซึ่งเป็นหมอเทวดามือฉมังสืบเชื้อสายมาจากครอบครัวตระกูลขุนนางฝ่ายบู๊อันยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณ ถึงกับทะลุมิติมายังราชวงศ์เป่ยหมิงอ๋องบ้าบออะไรนี่ ทั้งยังกลายเป็นสาวอัปลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนรังเกียจจนอยากจะอาเจียน!

    เจ้าของร่างเดิมถึงขนาดมีชื่อแซ่เดียวกันกับเธอ หรือที่เรียกกันว่าซ่งหวานหว่าน และนางยังเป็นบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกของเยียนซานโหวนามว่าซ่งเว่ยหลิงผู้สง่างามอีกด้วย ถึงนางจะมีสถานะสูงศักดิ์ แต่กลับมีรอยด่างสีดำขนาดใหญ่อยู่บนใบหน้าตั้งแต่วัยเยาว์ ช่างดูอัปลักษณ์หาใดเปรียบ น่าเกลียดน่ากลัวอย่างยิ่ง

    ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่ขบขันจากทุกคนในราชวงศ์เป่ยหมิงอ๋อง เพื่อทำให้จ้านอ๋องที่มีนามว่าเจียงอู๋วั่งอับอาย ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้นางแต่งงานกับเขา

    ทว่าคนที่เจ้าของร่างเดิมหลงรักคือองค์รัชทายาทเจียงอวี้หนิง ดังนั้นในวันแต่งงาน นางจึงแขวนคอตายในห้องหอ

    นับตั้งแต่นั้นซ่งหวานหว่านผู้โชคร้าย จึงต้องอาศัยร่างของนางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง

    ผี...ผีหลอก?

    กรี๊ดดดดด ผีหลอก! เหล่าสาวใช้และหมัวมัวเห็นนางก็พากันกรีดร้องเสียงดังไม่หยุด

    ทว่าสาวใช้รุ่นเล็กในชุดเรียบง่ายที่อยู่ด้านข้าง กลับเดินเข้ามาหาพร้อมกับดวงตาแดงก่ำ คุณหนู? ท่านฟื้นแล้วหรือเจ้าคะ ท่านทำให้เสี่ยวชิงตกใจแทบตายแล้ว! ฮือฮือฮือ!

    ซ่งหวานหว่านจำได้ว่านี่คือเสี่ยวชิงสาวใช้ส่วนตัวของเจ้าของร่างเดิม ครั้นเห็นนางร้องไห้อย่างน่าสังเวช ซ่งหวานหว่านก็โบกมือแล้วกล่าวว่า นี่ อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ ข้าไม่เป็นไรแล้ว!

    เจ้าของร่างเดิมคงไม่กลับมาแน่นอนแล้ว นางต้องอาศัยฐานะของเจ้าของร่างเดิมมีชีวิตอยู่ต่อไป และจะปฏิบัติต่อคนข้างกายของเจ้าของร่างเดิมด้วยความกรุณา

    คุณหนู? ท่านไม่เป็นไรแล้วจริงๆ หรือ

    หมัวมัวที่อยู่ด้านข้างจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็ตาสว่างวาบ เร็วเข้า ทุกคน รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณหนู! ใกล้ถึงฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาวแล้ว หากทำให้การณ์ใหญ่ล่าช้า ระวังจะแบกรับไม่ไหว!

    ครั้นทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างก็มีสีหน้าตื่นตระหนก พากันเดินขึ้นหน้ากดซ่งหวานหว่านเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดแต่งงาน

    เอ๋? พวกเจ้า...พวกเจ้าอย่าแตะต้องข้านะ!

    คุณหนูใหญ่ ในเมื่อท่านยังไม่ตาย ก็ควรแต่งไปที่จวนจ้านอ๋องเสียแต่โดยดีเถิด! นี่คือพระราชโองการของฝ่าบาทเชียวนะ!

    แม้ท่านอ๋องจ้านจะไม่ทรงเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท ทั้งยังพิการ แต่เขาก็ยังเป็นถึงพระอนุชาของฝ่าบาท! ท่านได้แต่งงานกับเขา ถือเป็นความโชคดีใหญ่หลวงแล้วเจ้าค่ะ!

    ต่อไปเมื่อท่านได้เป็นพระชายาจ้านอ๋องแล้ว ท่านต้องจดจำฐานะของตัวเองให้ดี อย่าได้ไปรบกวนองค์รัชทายาทอีก!

    ...

    ซ่งหวานหว่านจึงถูกบังคับให้เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วถูกยัดเข้าไปในเกี้ยวเจ้าสาวด้วยประการฉะนี้ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจวนจ้านอ๋อง

    บ้าเอ๊ย... นางเอนตัวพิงเกี้ยวด้วยความมึนงง รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาครามครัน

    นี่มันเรือล่มในน้ำโคลนชัดๆ คนเหล่านี้อาศัยว่านางเพิ่งข้ามมิติมาร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี ถึงขั้นบังคับให้นางแต่งงาน! แถมพวกเขายังรู้สึกว่านางได้กำไรอย่างมากจากการได้แต่งงานกับท่านอ๋องจ้านอีกด้วย

    นางน่าเกลียดขนาดนั้นเลยหรือ

    ครั้นสัมผัสไปที่รอยด่างดำบนใบหน้า ในใจของซ่งหวานหว่านก็ด่าไปทั่ว

    นางยกมือขึ้นเพื่อแตะชีพจรของตัวเอง ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า โรคตุ่มน้ำพอง? ลำบากหน่อย

    ในขณะที่กำลังคิดว่าจะรักษาอย่างไรดีนั้น เกี้ยวเจ้าสาวก็มาถึงด้านนอกจวนขององค์ชายหกจ้านอ๋องแล้ว

    ทั้งๆ ที่เป็นวันมหามงคลแท้ๆ แต่ที่นี่กลับดูเงียบเหงาวังเวง ไม่มีบรรยากาศของการแต่งงานโดยสิ้นเชิง

    องครักษ์ของจวนจ้านอ๋องยืนหลังเหยียดตรงอยู่หน้าประตูจวน แผ่กลิ่นอายฆ่าฟันออกมาอย่างรุนแรง

    เมื่อพวกเขาเห็นเกี้ยวก็มิได้ทักทายปราศรัย กล่าวเพียงว่า ท่านอ๋องมีสั่งไว้ไม่ให้เกี้ยวเข้าทางประตูหลัก แต่ให้เข้าทางประตูหลังแทน

    ในฐานะสาวใช้ติดตามเจ้าสาว เสี่ยวชิงกำลังคิดจะแสดงความไม่พอใจของตนออกมา แต่แม่สื่อกลับนำทุกคนไปยังประตูหลังแต่โดยดี

    ล้อเล่นหรือไร นี่คือจวนจ้านอ๋องเชียวนะ! ใครกล้าอวดดีที่นี่กัน

    เกี้ยวเจ้าสาวถูกหามผ่านประตูหลังแคบๆ เข้าสู่สวนด้านหลังของจวนอ๋อง ทันทีที่แม่สื่อและคนหามเกี้ยววางเกี้ยวลง พวกเขาก็วิ่งราวกับกำลังหนีตายอย่างไรอย่างนั้น เหลือเพียงเสี่ยวชิงและเกี้ยวเจ้าสาวที่ยังหยุดอยู่ตรงที่เดิมอย่างโดดเดี่ยว

    เสี่ยวชิงจวนจะถูกความโกรธทำให้ร้องไห้อยู่รอมร่อ พวกเขาทำกับคุณหนูแบบนี้ได้อย่างไรกัน

    ซ่งหวานหว่านกลับไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวด้วยตัวเอง แล้วก้าวออกมาจากเกี้ยว

    คุณหนู ท่านลงมาเองไม่ได้นะเจ้าคะ ต้องรอให้ท่านอ๋องจ้านมาเตะเกี้ยวถึงจะลงมาได้….

    รอไปทำไม พวกเราเข้ามาทางประตูหลัง เจ้ายังจะคาดหวังให้เขามาเตะเกี้ยวอีกหรือ ซ่งหวานหว่านปัดๆ มืออย่างไม่สนใจ ก่อนจะมองสำรวจสวนด้านหลังของจวนอ๋องแห่งนี้

    ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจวนจ้านอ๋องแห่งนี้มีสง่าราศีเพียงใด ควรใช้คำสองคำว่า 'หรูหรา' มาอธิบายถึงจะถูก

    ตายแล้ว นี่ใช่พี่สาวหวางเฟยที่เพิ่งแต่งเข้ามาหรือไม่ พี่สาว เหตุใดท่านจึงเข้ามาทางประตูหลังเล่า แล้วไม่รอท่านอ๋องมาเตะเกี้ยวก็ลงจากเกี้ยวแล้วหรือ นี่มันไร้กฎเกณฑ์เกินไปหน่อยหรือไม่ ช่างไร้การอบรมสั่งสอนเสียจริง!

    น้ำเสียงแหลมเสียดหูดังขึ้น พร้อมกับหญิงสาวอ่อนเยาว์ในอาภรณ์หรูหราสูงศักดิ์เดินนำอนุภรรยากลุ่มใหญ่เข้ามาโขยงหนึ่ง หลังจากคำนวณดูคร่าวๆ เกรงว่าจะมีถึงยี่สิบกว่าคนเห็นจะได้

    นี่เป็นการมาแสดงอำนาจกับนางสินะ!

    โชคดีที่เจ้าของร่างเดิมมีใบหน้านี้อยู่ในความทรงจำ นางคือบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของซ่างซูแห่งกรมพิธีการนามว่าซูมู่เสวี่ย ถูกฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้กับจ้านอ๋องเจียงอู๋วั่งในฐานะเช่อเฟย

    ที่แท้ก็เป็นซูเช่อ~~เฟยนี่เอง

    ซ่งหวานหว่านจงใจลากเสียงให้ยาวขึ้น โดยเน้นคำว่า 'เช่อ' เป็นหลัก เมื่อเห็นสีหน้าของซูมู่เสวี่ยเปลี่ยนไปทันควัน นางก็ยิ้มตาหยีกล่าวว่า นี่ซูเช่อเฟยต้องการจะสอนกฎเกณฑ์ให้กับหวางเฟยอย่างข้าแล้วหรือ ซูเช่อเฟยช่างรู้กฎเกณฑ์ดีจริงๆ

    ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ใบหน้าซูมู่เสวี่ยพลันชาดิก

    เช่อเฟยสอนกฎเกณฑ์หวางเฟย? นี่มัน 'รู้กฎเกณฑ์' ตรงไหนกัน นี่เท่ากับเป็นการต่อต้านสวรรค์ชัดๆ

    ซ่งหวานหว่านไปเรียนคำพูดคำจาแปลกประหลาดมาจากที่ใดกัน

    เสี่ยวชิง ไหนเจ้าลองบอกมาซิ หวางเฟยอย่างข้าควรเรียนรู้กฎเกณฑ์จากซูเช่อเฟยอย่างไร ซ่งหวานหว่านยิ้มตาหยีกล่าว

    เสี่ยวชิงเก่งเรื่องนี้เป็นพิเศษ ส่ายใบหน้าเล็กแล้วกล่าวว่า ทูลหวางเฟย แต่ไรมามีเพียงหวางเฟยที่สอนกฎเกณฑ์เช่อเฟยเพคะ ยังไม่เคยมีหลักการใดที่ให้เช่อเฟยสอนกฎเกณฑ์หวางเฟยมาก่อน นั่นเท่ากับเป็นการกระด้างกระเดื่องไม่เชื่อฟัง ไร้สัมมาคารวะเป็นอย่างยิ่งเพคะ

    อย่างนั้นหรือ

    ซ่งหวานหว่านพูดจบ ใบหน้าก็ขรึมลงทันที แสดงว่าบุตรสาวที่ใต้เท้าซูผู้เป็นถึงซ่างซูแห่งกรมพิธีการคลอดออกมา ที่แท้ก็เป็นพวกการกระด้างกระเดื่องไม่เชื่อฟัง ไร้สัมมาคารวะหรือนี่?!

    ซูมู่เสวี่ยสีหน้าพลันแดงก่ำ เจ้า... เจ้ากล้าด่าข้าเชียวหรือ!

    ข้าพูดผิดงั้นหรือ ซ่งหวานหว่านเชิดคางขึ้นมองนาง หวางเฟยอย่างข้าเพิ่งเข้าจวน เจ้าไม่เคารพข้าเต็มพิธีการ กลับพ่นวาจาหยาบคายออกมาแทน นี่ไม่เท่ากับเป็นการกระด้างกระเดื่องไม่เชื่อฟัง ไร้สัมมาคารวะหรอกหรือ

    เจ้า...! ซูมู่เสวี่ยร้อนใจ ครั้นเห็นว่าเจียงอู๋วั่งที่นั่งรถเข็นอยู่ไม่ไกลกำลังถูกองครักษ์เข็นเข้ามา ก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีก่อนจะทำท่าทางอ่อนแอน่าสงสารออกมา

    ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง หม่อมฉันไม่อยากอยู่แล้วเพคะ พี่สาวหวางเฟยทรงทำเกินไป พอเข้ามาจวนอ๋องก็สร้างความอับอายให้หม่อมฉันเสียแล้ว ฮือฮือ...

    ซ่งหวานหว่านหันไปมอง พริบตาที่เห็นเจียงอู๋วั่งก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ

    สวรรค์ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีบุรุษที่หล่อเหลาขนาดนี้ ยังหล่อกว่าดาราไอดอลยุคหลังที่ใช้หน้าตาหากินเป็นพันเท่าด้วยซ้ำ!

    ใบหน้าหล่อเหลา เงาร่างทะมัดทะแมง องคาพยพทั้งห้าสมบูรณ์แบบราวกับพระเจ้าตั้งใจแกะสลักออกมาอย่างวิจิตรบรรจง ภายใต้คิ้วรูปดาบ ดวงตาลึกล้ำคู่นั้นคล้ายกับจะซ่อนความบ้าระห่ำอันลึกสุดหยั่งเอาไว้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ใครที่ได้เห็นเกิดความหวาดกลัว

    สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลิ่นอายของเขา แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่ยังคงมีกลิ่นอายสูงศักดิ์และเย่อหยิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดแผ่ออกมา เพียงมองแวบเดียวก็ทำให้คนหายใจไม่ออกได้

    อุ๊ย นี่คือสามีฟรีของนางงั้นหรือ

    ขณะที่ซ่งหวานหว่านกำลังจ้องมองเจียงอู๋วั่งอย่างกับหญิงบ้าผู้ชายอยู่นั้น ดวงตาเย็นชาคู่นั้นของเจียงอู๋วั่งก็มาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของนางเช่นกัน

    ริมฝีปากบางแย้มออกเล็กน้อย เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า มากเกินไปจริงๆ สมควรถูกลงโทษ!

    บทที่ 2 เอาชนะเวทมนตร์ด้วยเวทมนตร์

    เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงอู๋วั่ง ซ่งหวานหว่านก็ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง ไม่จริงใช่ไหม?

    บุรุษสุนัขผู้นี้ ปกป้องกันขนาดนี้เชียว

    ทว่าเพียงชั่วครู่ต่อมา เจียงอู๋วั่งกลับมองไปทางซูมู่เสวี่ยอย่างเย็นเยียบ ไม่เคารพหวางเฟย ไม่มีสัมมาคารวะ ขออภัยหวางเฟยเสีย!

    ซ่งหวานหว่าน ???

    หืม? คนที่ถูกลงโทษคือซูมู่เสวี่ยหรอกหรือ

    ซูมู่เสวี่ยกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาคลอหน่วย ก่อนจะย่อกายขอโทษซ่งหวานหว่านอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก

    พี่สาวหวางเฟย น้องสาวผิดไปแล้ว หวังว่าท่านจะให้อภัย

    ซ่งหวานหว่านพลันกระตือรือร้นขึ้นมา กล่าวอย่างเบิกบานใจว่า ดูเหมือนว่าน้องสาวเช่อเฟยจะยังไม่ได้ทำความเคารพหวางเฟยอย่างข้าเลย

    เจ้า! ซูมู่เสวี่ยใช้ดวงตาแดงเรื่อจ้องถลึงใส่นาง แต่ยังคงกัดริมฝีปากย่อกายเอ่ยขึ้นว่า น้องสาวมาพบพี่สาวหวางเฟย ถวายพระพรพี่สาวหวางเฟยเพคะ

    ซ่งหวานหว่านไม่เอ่ยอะไร แต่มองไปยังอนุภรรยากว่ายี่สิบคนที่อยู่ด้านหลังนางแทน

    คนกลุ่มนั้นพลันตระหนกวาบ รีบทำความเคารพซ่งหวานหว่านทันที

    ถวายพระพรพี่สาวหวางเฟยเพคะ!

    ในที่สุดซ่งหวานหว่านก็พอใจ

    การแสดงอำนาจของซูมู่เสวี่ยในครั้งนี้ไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ กลับเป็นตนที่ต้องกล้ำกลืนความลำบากเสียเอง วันเวลาต่อจากนี้ คนที่แล่นเรือไปตามลมเหล่านั้นในจวนอ๋อง คงไม่กล้าสร้างความลำบากให้นางเกินไปหรอกนะ?

    ซ่งหวานหว่านยังไม่ทันได้ดีใจ น้ำเสียงหนาวเหน็บทุ้มเย็นสายนั้นของเจียงอู๋วั่งก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

    ฉะนั้น ตอนนี้ก็ถึงตาเจ้าแล้ว พบเจอข้า เจ้าทำความเคารพหรือยัง

    ซ่งหวานหว่านคิดในใจ บ้าอะไรเนี่ย? ดังนั้นเบื้องหน้าที่ตาแก่อย่างเจ้าช่วยข้าพูด ก็เพื่อรอผลลัพธ์นี้งั้นหรือ

    ใช้วิธีของนางมาเอาชนะนาง โหดร้ายชะมัด!

    คนโบราณกล่าวได้ดี ลูกผู้หญิงยืดได้หดได้ ผู้เข้าใจสถานการณ์นั้นคือยอดสตรี! เคารพก็เคารพสิ เพิ่งมาเยือนที่นี่ นางจะทำอะไรผลีผลามไม่ได้

    ด้วยเหตุนี้ ซ่งหวานหว่านจึงแขวนป้ายรอยยิ้มการค้า ก่อนจะทำความเคารพแล้วกล่าวว่า หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าท่านอ๋อง ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ

    เจียงอู๋วั่งกวาดตามองนางแวบหนึ่งอย่างเย็นชา ก่อนจะยกมือขึ้นเล็กน้อย จากนั้นองครักษ์ก็เข็นเขาออกไป เขากล่าวโดยไม่หันศีรษะกลับมามองว่า ต่อไปเจ้าก็อาศัยอยู่ที่เรือนฮ่วนซีแล้วกัน หากว่างไม่มีอันใดทำ ก็จงอยู่อย่างสงบเสงี่ยม

    เพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋อง

    ซ่งหวานหว่านตอบกลับด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง มองเงาหลังของเจียงอู๋วั่ง พลางกลอกตาใส่อย่างเงียบๆ เอ่ยคำวิจารณ์ที่อยู่ในใจออกมาว่า ปกติบุรุษที่มีจิตใจคับแคบ ตรงนั้นมักจะเล็กจิ๋ว ท่านอ๋องผู้นี้ดูท่าคงจะใช้การไม่ได้ จุ๊ๆ

    เจียงอู๋วั่งที่ไปได้ไม่ไกล ...

    องครักษ์ ... จ้องมองท้องฟ้าพลางส่งเสียงไอ

    เจียงอู๋วั่งกัดฟันกล่าวว่า จัดองครักษ์เงาเฝ้าดูนางทั้งกลางวันกลางคืน หากมีความผิดปกติใดๆ ฆ่าได้ไม่ละเว้น!

    พ่ะย่ะค่ะ!

    ซ่งหวานหว่านมาถึงเรือนฮ่วนซี ภายใต้การนำทางของบ่าวรับใช้ในจวนอ๋อง

    สภาพแวดล้อมที่นี่นับว่าไม่เลว ทั้งพ่อบ้านของจวนอ๋องยังจัดสาวใช้เล็กให้นางอีกคนหนึ่งด้วย

    พอเห็นนาง สาวใช้ก็คุกเข่าคำนับนางทันที บ่าวมีนามว่าเฉาเย่า ถวายบังคมหวางเฟยเพคะ!

    ครั้นเห็นว่าดวงตาของสาวใช้ผู้นี้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่คล้ายกับเป็นคนเลว ซ่งหวานหว่านก็กล่าวด้วยความรู้สึกเอ็นดูว่า ลุกขึ้นเถิด ต่อไปทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ภายในเรือนฮ่วนซีของข้า ไม่จำเป็นต้องยึดถือพิธีการ

    เฉาเย่าตกตะลึง ส่วนฝูหลิงก็ดวงตาเบิกกว้าง ทำไมนางถึงรู้สึกว่าหลังคุณหนูของนางฟื้นขึ้นมา นิสัยเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ที่ดุร้ายและหยิ่งผยองแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว

    ข้าหิวแล้ว พวกเจ้าไปเตรียมของกินให้ข้าเถอะ

    หลังจากสั่งให้ทั้งสองคนออกไปแล้ว ซ่งหวานหว่านก็กลับไปที่ห้องและปิดประตูทันที

    นางเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะอย่างรวดเร็ว ใช้น้ำจากถ้วยชารดไปที่นิ้วกลางข้างซ้าย จากนั้นก็จ้องไปที่มันเขม็ง

    ในเวลาไม่นาน บนนิ้วมือก็ค่อยๆ มีแหวนสีม่วงปรากฏขึ้นมา

    ยังอยู่! ! !

    ซ่งหวานหว่านดีใจจนแทบคลั่ง นางกะพริบตาอยู่หลายครั้ง หลังจากที่มั่นใจว่าไม่ใช่ภาพหลอน นางก็กระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ

    กรี๊ดดด!

    แหวนอวกาศของนางก็ทะลุมิติมาที่นี่ด้วย!

    เยี่ยมไปเลย! ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!

    ในยุคปัจจุบัน พ่อของนางเคยได้หินสีม่วงที่ไม่ทราบที่มาโดยบังเอิญ จากนั้นก็ใช้มันสร้างเป็นแหวนอวกาศวงหนึ่ง แล้วมอบให้นาง

    หลังจากที่นางผูกมัดกับแหวนแล้ว พื้นที่ว่างของแหวนสามารถขยายเพิ่มขึ้นตามความแข็งแกร่งของนาง

    ปัจจุบัน นอกจากสิ่งมีชีวิตแล้ว แหวนสามารถบรรจุสิ่งของได้ทุกอย่าง

    อย่างเช่นตอนนี้ ในแหวนมียาสมุนไพร อาวุธ กระสุนและสิ่งจำเป็นที่ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังรวมถึงอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนที่นางใส่ไว้ก่อนหน้านี้ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไก่ทอด กุ้งฝอยและอื่นๆ !

    นางแทบจะย้ายเอายุคปัจจุบันมาไว้ที่นี่แล้ว!

    ถังถังลูกรัก เจ้าอยู่หรือไม่ ซ่งหวานหว่านใช้ความคิดคุยกับแหวนอวกาศ เพื่อมองหาของวิเศษของแหวน

    ในวินาทีถัดมา นางก็ได้รับการตอบกลับ

    หนูอยู่นี่! เจ้านาย ท่านปลุกหนูอีกแล้ว!

    หลังของวิเศษที่ถูกเรียกว่าถังถังมองเห็นนาง ก็เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจว่า เจ้านาย ทำไมท่านถึงอัปลักษณ์แบบนี้! อุแง! ตอนนั้นเป็นเพราะชอบรูปร่างหน้าตาของท่าน หนูถึงยอมเรียกท่านว่าเจ้านาย ท่านเป็นแบบนี้จะให้หนูมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร!

    โอ๋ อย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้ รู้หรอกว่าเจ้าเป็นเด็กชอบคนสวย ไม่มีทางทำให้เจ้าตาบอดเพราะความอัปลักษณ์หรอก

    ซ่งหวานหว่านกล่าว เจ้าไม่ต้องกังวล รอยด่างบนใบหน้าของข้าเกิดจากพิษ เมื่อข้ากำจัดพิษได้แล้ว ก็จะได้ความงามเลิศล้ำกลับคืนมาดังเดิม เจ้าไม่ขาดทุนแน่

    เมื่อพูดจบ ซ่งหวานหว่านก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง

    ของวิเศษก็มาด้วย! ช่างโชคดีจริงๆ! ฟ้าย่อมไม่สิ้นไร้หนทาง!

    จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้นท่านต้องการยาอะไร หนูจะหามาให้เดี๋ยวนี้เลย ถังถังพูดอย่างมีความสุข

    ข้าต้องการหญ้าเจ็ดใบ ดอกมู่เหลียนสีดำ ยอดภูเขาน้ำแข็ง… ซ่งหวานหว่านพูดถึงสมุนไพรหายากมากกว่าสิบชนิดออกมาในชั่วอึดใจ

    เจ้านาย หญ้าเจ็ดใบกับยอดภูเขาน้ำแข็งไม่มีแล้ว ท่านคิดหาวิธีเอาเองเถอะ ส่วนอย่างอื่นหนูเตรียมไว้ให้หมดแล้ว เอาล่ะ หนูขอไปมาสก์หน้าก่อนนะ บ้ายบาย

    "ถังถัง เจ้าเป็นเด็กผู้ชายน่ารักน่าชังคนหนึ่ง แล้วเจ้าจะมาสก์หน้าไปเพื่ออะไรทุกวัน

    หนูพอใจจะทำ! ผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันนะ ชิ! หนูต้องหล่อกว่าท่านอ๋องจ้านคนนั้นให้ได้เลย!

    ซ่งหวานหว่านคิดในใจ...เอาเถอะ บุรุษจิตใจลึกดั่งก้นสมุทร นางไม่เข้าใจหรอก

    มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทางด้านนอก จากนั้นเฉาเย่าก็ส่งเสียงออกมาว่า หวางเฟย อาหารมาแล้วเจ้าค่ะ

    พอซ่งหวานหว่านได้ยินตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ตอนนี้ท้องนางร้องประท้วง หิวจะตายอยู่แล้ว

    พอเดินออกมานั่งที่โต๊ะ กลับพบว่าบนโต๊ะมีเพียงข้าวสวยหนึ่งชามกับผัดผักเต้าหู้ที่ไม่มีน้ำมันอะไรเลยอีกหนึ่งจาน

    เฉาเย่า จวนอ๋องของพวกเจ้ายากจนถึงเพียงนี้เชียวหรือ ขนาดหวางเฟยยังได้กินแค่น้ำแกงเปล่า?

    หวัง...หวางเฟยประทานอภัยด้วยเพคะ นี่...นี่เป็นอาหารที่โจวต้าเหนียงแม่ครัวของจวนส่งมา อาหารของท่านเหมือนกับของพวกบ่าว... นางบอกว่า ซูเช่อเฟยเป็นคนจัดเตรียมสิ่งนี้ให้ท่าน...

    ซ่งหวานหว่านพอได้ยินก็โกรธจัด

    หนอยแน่ ซูมู่เสวี่ย ต่อหน้าพ่ายแพ้แล้ว ก็มาเล่นลับหลังกันแบบนี้

    หวางเฟย ท่านอ๋องงานราชกิจยุ่งมาก ไม่สนใจเรื่องในเรือนหลัง ตอนนี้เรือนหลังทั้งหมดของจวนอ๋องมีซูเช่อเฟยเป็นคนจัดการเพคะ ต่อไปวันข้างหน้า เกรงว่านางจะพุ่งเป้ามาที่เรา... เฉาเย่ากล่าวอย่างเป็นห่วง

    พุ่งเป้า? ใครกลัวกัน เจ้าไม่ต้องห่วง ติดตามข้า พวกเจ้าไม่มีทางอดตาย ซ่งหวานหว่านแค่นเสียงกล่าว พวกเจ้าไปยกอาหารของพวกเจ้ามา อาเจ้จะจัดมื้อพิเศษให้พวกเจ้าเอง!

    เพคะ หวางเฟย บ่าวจะไปยกมาเดี๋ยวนี้ เฉาเย่ากล่าวอย่างนอบน้อม

    เมื่อนางเดินออกไป ซ่งหวานหว่านก็หยิบอาหารออกมาจากช่องมิติทันที มีขาหมูพร้อมทาน รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำพริกยี่ห้อเหล่ากานมา

    หลังหาน้ำเดือดที่อยู่บนโต๊ะเจอ ก็เทลงไป กลิ่นหอมเข้มข้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ลอยอบอวลขึ้นมาในทันที

    ตอนที่ 3 หวางเฟยเป็นวรยุทธ

    หลังเฉาเย่ากับเสี่ยวชิงกลับมา ทั้งห้องก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอม

    เสี่ยวชิงตะกละจนน้ำลายไหล กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า หวางเฟย ท่านไปเอามันมาจากไหนเจ้าคะ บ่าวถึงไม่เคยเห็นอาหารหน้าตาแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน

    ไม่นานมานี้ข้าบังเอิญเจอชายแปลกหน้าจากโปซือ เขาเป็นคนมอบมันให้ข้า

    ซ่งหวานหว่านปั้นแต่งเรื่องขึ้นมา มาลองชิมดูสิ หอมไหม

    ระหว่างที่พูด นางก็ยกฝาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเปิดออก  จากนั้นก็คลี่ห่อขาหมู แล้วเทขาหมูออกมา

    ทั้งเสี่ยวชิงและเฉาเย่าจวนจะร้องไห้เพราะความอยากอาหาร

    ซ่งหวานหว่านเป็นคนเปิดฉาก คว้าขาหมูขึ้นมาแทะกินก่อน สาวใช้รุ่นเล็กทั้งสองก็ไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน เริ่มลงมือกินทันที

    หวางเฟย ฮือฮือ! นี่มันอร่อยเกินไปแล้ว! ทั้งหอมทั้งอร่อย!

    ขอบพระทัยหวางเฟยเพคะ ขาหมูนี่อร่อยมาก เป็นอาหารที่ดีที่สุดที่บ่าวเคยกินมาตลอดชีวิต

    ฮ่าฮ่าฮ่า อร่อยก็ดีแล้ว ซงหวานหว่านยิ้มกล่าว ก่อนจะมองออกไปที่นอกหน้าต่างแวบหนึ่ง แล้วกระตุกริมฝีปากยิ้มกล่าวว่า สหายน้อยบนต้นไม้ เจ้าอยากมาลองชิมดูสักคำหรือไม่

    เสี่ยวชิงและเฉาเย่าไม่มีปฏิกิริยาใด แต่ต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่างกลับสั่นไหวขึ้นมากะทันหัน จากนั้นร่างร่างหนึ่งก็ร่วงตุ้บลงมา

    เสี่ยวชิงและเฉาเหยา ...!!!

    ซ่งหวานหว่านแค่นเสียงเย็น เจ้าอ่อนหัด ตะกละแล้วสิ!

    *

    เพียงไม่นาน เสียงเคาะประตูห้องหนังสือของจวนจ้านอ๋องก็ดังขึ้น

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1