Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา
ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา
ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา
Ebook370 pages38 minutes

ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา

Rating: 0 out of 5 stars

()

Read preview

About this ebook

หมอหญิงทะลุมิติถึงสมัยโบราณและกลายเป็นเด็กอ่อนแอ เป็นที่รักของมารดาและพี่สาวสามคน
มารดาเรียกเธอเป็นลูกชาย พี่สาวเรียกเธอเป็นน้องชาย อะไรนะ เธอกลายเป็นผู้ชายเมื่อไหร่
ใช้มือไปคลำ ไม่ได้คลำถูกอะไรบางอย่าง โชคยังดีที่เธอยังเป็นผู้หญิงอยู่
แต่ชีวิตที่อยากจนแบบนี้ทำให้เธออดไม่ได้ เธอตัดสินใจจะทำอะไรเพื่อหารายได้มาเลี้ยงแม่และพี่สาว อย่างไรก็ตาม เธอพบชายป่วยคนหนึ่งและช่วยชีวิตเขาและพาเขากลับบ้าน คิดไม่ถึงว่าชายคนนั้นกลับตกหลงรักเธอ
“เสี่ยวซื่อ ข้าชอบเจ้า”
เหยี่ยนเสี่ยวซื่อ“จะมาชอบทำไม ข้าเป็นผู้ชายเหมือนกัน”
ชายคนนั้น“ไม่เป็นไร ความรักไม่เกี่ยวอะไรกับเพศ”

Languageภาษาไทย
PublisherPublishdrive
Release dateOct 17, 2023
ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา

Related to ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา

Titles in the series (1)

View More

Related ebooks

Related categories

Reviews for ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา

Rating: 0 out of 5 stars
0 ratings

0 ratings0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา - popnovel

    สารบัญ

    บทที่ 1 น้องคนที่สี่ของตระกูลเหยี่ยน

    บทที่ 2 พี่ใหญ่ที่แสนดี

    บทที่ 3  บ้านที่ทรุดโทรม

    บทที่ 4 วอวอโถวที่แข็งยิ่งกว่าก้อนหิน

    บทที่ 5 นับว่าไม่เลวแล้ว

    บทที่ 6 เข้าป่า

    บทที่ 7 ไป๋จู๋

    บทที่ 8 ค้นพบมิติเวลา (หนึ่ง)

    บทที่ 9 ค้นพบมิติเวลา (สอง)

    บทที่ 10 บุรุษในชุดดำ

    บทที่ 11 แลกเปลี่ยน

    บทที่ 12 หาเงินได้ยี่สิบตำลึง

    บทที่ 13 กลับบ้านด้วยกัน

    บทที่ 14 เหมือนกับคอกเลี้ยงสัตว์

    บทที่ 15 โฉมงามลวงโลก

    บทที่ 16 โก่งราคา

    บทที่ 17 ร่างกายช่างอ่อนแอเหลือเกิน

    บทที่ 18 มีไข่ไก่กินแล้ว

    บทที่ 19 ไข่ผัดผักป่า

    บทที่ 20 พอได้ยินคำว่าเนื้อตาก็ลุกวาว

    บทที่ 21 ไก่ตุ๋นของสมุนไพรไป๋จู๋

    บทที่ 22 สุนัขอาศัยบารมีเจ้าของ

    บทที่ 23 ทุบสุนัข

    บทที่ 24 อยากกินเนื้อจนเสียสติ

    บทที่ 25 เนื้อสุนัขตุ๋น

    บทที่ 26 สมุนไพรไป๋จู๋ตุ๋นเนื้อสุนัขก็ไม่เลว

    บทที่ 27 ไม่ควรกินเนื้อสุนัขมากเกินไป

    บทที่ 28 เด็กที่ช่างเจรจา

    บทที่ 29 เข้าไปในมิติเวลาเพื่อฝึกฝนพลัง

    บทที่ 30 ค้นหา (หนึ่ง)

    บทที่ 31 ค้นหา (สอง)

    บทที่ 32 ค้นหา (สาม)

    บทที่ 33 เสียงกัดฟัน

    บทที่ 34 ขาดแคลเซียม

    บทที่ 35 ฝีมืองานปักของพี่สาม

    บทที่ 36

    บทที่ 37 ท่านเป็นใคร?

    บทที่ 38 รูปร่างดี

    บทที่ 39 ปกป้อง

    บทที่ 40 หรือเสียสติไปแล้ว

    บทที่ 41 พี่หลงเฮ่าเป็นลมบ้าหมู

    บทที่ 42 เรื่องน่าอายของตระกูลหลิว

    บทที่ 43

    บทที่ 44 ยืมเกวียนวัว

    บทที่ 45 นางหวางล้มจนบาดเจ็บ

    บทที่ 46 แสดงความสามารถในครั้งแรก

    บทที่ 47 แสดงความสามารถครั้งแรก (สอง)

    บทที่ 48 กินข้าวด้วยกัน

    บทที่ 49 ความอบอุ่น

    บทที่ 50 แสงแดดยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิ

    บทที่ 51 ข้าวของราคาแพง

    บทที่ 52 จัดการท่านป้ารอง

    บทที่ 53 ไปหอสุรา

    บทที่ 54 ความคัดแย้งเกิดขึ้นอีกครั้ง

    บทที่ 55 ช่วยเหลือผู้อื่นจนมีเนื้อกิน

    บทที่ 56 บุกไปจี้เหรินถาง

    บทที่ 57 การรักษา

    บทที่ 58 อาหารยาสมุนไพร

    บทที่ 59 ขายอาหารยาสมุนไพร

    บทที่ 60 ผลพลอยได้อย่างไม่คาดคิดมาก่อน

    บทที่ 61 ขายหนังสุนัข

    บทที่ 62 นำของมาแลก

    บทที่ 63 ซื้อเนื้อ

    บทที่ 65 ปฐมพยาบาล

    บทที่ 66 เสี่ยวซื่อโกธร

    บทที่ 67 กลัวเสี่ยวซื่อโกธร

    บทที่ 1 น้องคนที่สี่ของตระกูลเหยี่ยน

    ยามโหย๋ว เวลาพลบค่ำ

    ราชวงศ์ต้าฉู่ หมู่บ้านเส้าเหยา ตำบลต้าซิง อำเภอซีเจ๋อ หลังคาบ้านของทุกครัวเรือนมีควันทำอาหารล่องลอยออกมา

    อำเภอซีเจ๋อแห่งนี้อยู่ในพื้นที่รกร้างทางตะวันตกของราชวงศ์ต้าฉู่ มีอาณาเขตติดกับแคว้นหรงตี๋ เกิดสงครามต่อเนื่องขึ้นทุกปี ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างทุกข์ยาก

    หมู่บ้านเส้าเหยาอยู่ภายใต้การปกครองของตำบลต้าซิง  พื้นดินแห้งแล้ง ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยมากกว่าห้าสิบครัวเรือน ยกเว้นตระกูลเหยี่ยนที่มีฐานะร่ำรวย ชาวบ้านที่เหลือต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด

    ตอนนี้เอง จวนหลังใหญ่ที่ก่อด้วยกำแพงอิฐสีมรกตของตระกูลเหยี่ยน ภายในจวนที่ปูพื้นกระเบื้องสีแดง มีควันอาหารกำลังพวยพุ่งขึ้นมา กลิ่นอาหารฟุ้งกระจายไปทั่ว ห้องครัวที่ทั้งกว้างและสว่าง มีหญิงรับใช้สองคน บ่าวรับใช้สูงอายุคนหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารให้เจ้านาย

    ในหม้อเหล็กขนาดใหญ่ใบหนึ่งกำลังตุ๋นขาหมู และในหม้อเหล็กขนาดใหญ่อีกใบหนึ่งมีซึ้งนึ่งสามชั้น ภายในซึ้งนึ่งเต็มไปด้วยหมั่นโถวเนื้อนุ่มสีขาวกลมโต

    ชาวบ้านที่เดินผ่านประตูจวนตระกูลเหยี่ยน พอได้กลิ่นอาหาร ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดฝ่าเท้าและกลืนน้ำลายสองสามอึก

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สงครามยังคงไม่จบ ในหมู่บ้านของพวกเรา คงมีเพียงตระกูลเหยี่ยนเท่านั้นที่ยังสามารถกินเนื้อสัตว์และดื่มสุราได้"

    ตระกูลเหยี่ยนร่ำรวยถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่ให้ภรรยาหม้ายของบ้านสายสามได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี  ภรรยาหม้ายและลูกๆของบ้านสายสามต้องไปอาศัยอยู่ที่ศาลเจ้าท้ายหมู่บ้าน สถานที่ที่ไม่สามารถบังแดด ต้านหิมะได้ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก

    นี่เป็นเรื่องครอบครัวของตระกูลเหยี่ยน พวกเราสอดมือได้หรือ  ไปๆ กลับไปกินข้าวกันเถอะ

    ท้ายหมู่บ้าน มีศาลเจ้าที่เก่าแก่ทรุดโทรม สตรีนางหนึ่งสวมชุดสีขาวซีด บนเสื้อมีรอยปะชุนชั้นแล้วชั้นเล่า กำลังถือตะหลิวที่บิ่นอยู่ในมือ ยืนอยู่หลังเตาถ่านกำลังง่วงอยู่กับการทำอาหร

    ในกระทะเหล็กขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงบิดเบี้ยว กำลังต้มผักสีใบเขียวอยู่ ในน้ำแกงผักไม่มีเห็นร่องรอยของน้ำมันแม้แต่น้อย

    ท่านแม่ พวกเรากลับมาแล้ว

    เมื่อพวกเด็กๆกลับมาแล้ว มีรอยยิ้มจางๆปรากฏบนบนใบหน้าของสตรี นางถือชามดินเผาเนื้อหยาบ ตักผักใบเขียวที่ต้มสุกอยู่ในหม้อขึ้นมา

    กลับมาได้ทันเวลาพอดีเลย ไปล้างมือแล้วมากินอาหารเย็นกัน

    สตรีนางนั้นนั้นโน้มตัวไปข้างหน้า มองไปยังประตูร้องขึ้นหนึ่งหนึ่งประโยค  จัดเรียงผักใบเขียวที่พึ่งต้มสุกและวอโถ่วเนื้อหยาบอีกสี่ก้อนวางบนโต๊ะ

    พอจัดวางเสร็จแล้ว ก็เห็นเด็กสาวหน้าตาซีดเหลืองสามคนเดินเข้ามายังห้องครัว

    สตรีนางนั้นพอเห็นแค่บุตรสาวสามคน ไม่เห็นบุตรชายคนเล็กกลับมา นางจึงถามขึ้น ฉินเอ๋อ เสี่ยวซื่อล่ะ? เสี่ยวซื่อไม่ได้ขึ้นเขาผ่าฟืนกับพวกเจ้าทั้งสามหรอกหรือ? เหตุใดเสี่ยวซื่อจึงยังไม่กลับมาล่ะ?

    เด็กสาวคนโตอายุสิบเจ็ดปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูฉิ๋น

    เด็กสาวคนรองอายุสิบหกปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูเสวี่ย

    เด็กสาวคนที่สามอายุสิบห้าปี มีชื่อว่าเหยี่ยนซูอวิ๋น

    เด็กสาวทั้งสามถึงวัยปักปิ่นแล้ว แต่กลับไม่มีผู้ใดมาขอแต่งงาน เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะบ้านสายสามของตระกูลเหยี่ยนยากจน กลัวว่าหากแต่งออกไปแล้วจะไม่มีสินเดิมติดตัวมา

    สำหรับสตรีผู้นี้ นางก็คือจงซู่ซิน เป็นภรรยาของบ้านสายสามของตระกูลเหยี่ยน

    นางจงแต่งให้กับเหยี่ยนป๋อเหวิน ท่านลุงสามแห่งตระกูลเหยี่ยน สามท้องแรกให้กำเนิดเป็นบุตรสาวทั้งหมด ทำให้ท่านผู้เฒ่าเหยี่ยนเหยี่ยนป๋อเสี๋ยน และฮูหยินผู้เฒ่าเหยี่ยนเจียงอิงเยว่เกิดโทสะ เพราะพวกเขาให้ความสำคัญต่อหลานชายมากกว่าหลายสาว แต่ในที่สุดพอท้องที่สี่พวกเขาก็ให้กำเนิดบุตรชาย บุตรชายคนนั้นหน้าตาหมดจด แต่น่าเสียดายที่หางตาด้านขวามีไฝสีแดงสด อยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่าไฝรองน้ำตา นายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่ากลับมองว่าเขาเป็นคนอาภัพโชค เจ้าหนูน้อยคนที่สี่อายุยังไม่ทันครบหนึ่งปี ท่านลุงสามเหยี่ยนป๋อเหวินกลับมาเสียชีวิต นายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่ากลับตัดสินใจว่านางจงและบุตรที่เหลืออยู่นำมาซึ่งความเป็นอัปมงคล จึงขับไล่นางและลูกออกจากตระกูลเหยี่ยน

    พอโดนนางจงถาม บุตรสาวทั้งสามของตระกูลเหยี่ยน ก็มองไปทางซ้ายทีและขวาที พึ่งจะรู้ตัวว่าไม่เห็นเงาของเหยี่ยนเสี่ยวซื่อน้องชายคนเล็กแล้ว

    พี่รองเหยี่ยนซูเสวี่ยพูดอย่างร้อนรนว่าน้องชายลงจากเขาแล้วกลับถึงบ้านตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอกหรือ?

    นางจงตบต้นขาอย่างกังวล แม่เกรงว่าเจ้าเด็กนั้นจะมัวแต่เที่ยวเล่นอีกแล้ว

    ท่านแม่อย่าพึ่งร้อนใจไป ลูกจะไปตามน้องสี่กลับมา

    เหยี่ยนซูฉิ๋นหมุนตัวแล้ววิ่งออกไปข้างนอก

    นางกำลังใช้ความคิด ตอนเหยี่ยนเสี่ยวซื่อหิวมาก มักจะไปที่อ่างเก็บน้ำน้ำที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปห้าร้อยเมตร เพื่อจับปลามาย่างกิน แล้วก็จะวิ่งเที่ยวเตร็ดเตร่ไปยังนอกหมู่บ้าน

    ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ เปลี่ยนเป็นลำแสงสีเทาเลือนลาง

    บนเขื่อนของอ่างเก็บน้ำด้านนอกหมู่บ้าน เด็กหนุ่มรูปร่างกำยำสามคนกำลังยืนล้อมตัวเด็กหนุ่มรูปร่างผอมอายุสิบสามสิบสี่คนหนึ่ง และกำลังใช้กำลังตุบตีรังแก

    เด็กหนุ่มรูปร่างผอมมีไฝรองน้ำตาสีแดงอยู่ตรงหางด้านขวา  คงเพราะมีไฝรองน้ำตา จึงขับเน้นตาหน้าของเขาให้ดูหมดจด

    ข้าจะเตะเจ้าคางคกนี้ให้ตายคาเท้า

    เด็กหนุ่มรูปร่างผอมที่โดนทุบจนศีรษะแตก นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น เขาขดตัว มือกุมศีรษะ ร่างกายสั่นเทา

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อ เจ้ายังกล้าหลอกล่อหลิวเชียนเชียนอีกหรือไม่?

    เจ้าตัวซวย กล้าติดตามหลิวเชียนเชียนอยู่เงียบๆ  เหมือนกับคางคกที่อยากกินเนื้อหงส์ไม่มีผิด

    ถุย,ตัวซวยอย่างเจ้ายังเทียบกับคางคกไม่ได้เลย。

    หลิวเชียนเชียนเป็นบุตรสาวของผู้ใหญ่บ้านหลิวเชียนเหอแห่งหมู่บ้านเส้าเหยา เป็นที่รู้จักในนามว่าสาวงามของหมู่บ้านเส้าเหยา

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อที่ขดตัวและกุมศีรษะอยู่ ไม่กล้าขัดขืนพี่ต้าเหอ ข้าไม่ได้หลอกล่อหลิวเชียนเชียน แต่หลิวเชียนเชียนเองต่างหากที่อยากเล่นกับข้า

    ไอ้สารเลว เจ้ากล้าใส่ร้ายชื่อเสียงของหลิวเชียนเชียน เอ้อเหอ ซานเหอ ชกมันแรงๆซักที ชกจนกว่าฟันจะร่วงหมดปาก

    เด็กชายที่เป็นหัวหน้ามีชื่อว่าเฉินต้าเหอ ส่วนเด็กชายอีกสองคนเป็นน้องชายของเขา มีชื่อว่าเฉินเอ้อเหอและเฉินซานเหอบิดาของพวกเขาช่วยงานท่านลุงรองนามว่าเหยี่ยนป๋อซูของตระกูลเหยี่ยน เพราะมีเหยี่ยนป๋อซูค่อยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง  อีกทั้งตระกูลเหยี่ยนก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าเหยี่ยนเสี่ยวซื่อ ทำให้เหยี่ยนเสี่ยวซื่อโดนแกล้งอยู่เป็นประจำ

    ทั้งหมัดและฝ่าเท้าลอยเข้ามาปะทะกับร่างของเหยี่ยนเสี่ยวซื่อ ชั่วขณะนั้นเอง เหยี่ยนเสี่ยวซื่อก็นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

    ตรงบริเวณเขื่อนมีร่องรอยของโลหิต

    พอเห็นเหยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่ขยับตัว เฉินเอ้อเหอกับเฉินซานเหอก็ตื่นตกใจ พวกเขามองไปยังเฉินต้าเหอ

    พี่ใหญ่ ไอ้ตัวซวยมันไม่ขยับตัวแล้ว

    หรือว่าไอ้ตัวซวยจะโดนพวกเราตีจนตาย

    เฉินต้าเหอตะคอกเสียงดัง ยกฝ่าเท้าเตะร่างเด็กชายที่เลือดไหลไม่หยุดบนพื้น  ข้าว่าไอ้ตัวซวยนี้คงกำลังแกล้งทำเป็นตายเอ้อเหอ ซานเหอลงมือทุบต่อ

    มันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน!

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วทั้งร่าง ความรู้สึกเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้นราวกับกำลังโดนรถทับ

    เธอยังไม่ตายเหรอ? ระหว่างทางที่ไปรวมกอง รถสปอร์ตเบนซ์ที่เธอขับอยู่พุ่งชนกับรถบรรทุกของหนักคันหนึ่งที่กำลังสวนมา รถบรรทุกของหนักคันนั้นทับรถรถสปอร์ตเบนซ์ของเธอไว้ด้านล่าง สถานการณ์เช่นนั้น โอกาสรอดของเธอแทบไม่มีเลย

    หรือว่าแม้แต่เป็นผีแล้วยังต้องมีความเจ็บปวดอยู่อีก?

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อสาปแช่งอยู่ในใจ

    ให้ตายเถอะ เป็นผีในสมัยนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ

    พี่ใหญ่ ไอ้ตัวซวยขยับตัวแล้ว ไอ้ตัวซวยนี่แกล้งทำเป็นตายจริงๆด้วย

    เฉินเอ้อเหอตะโกนเสียงดัง เฉินต้าเหอกัดฟันแน่น

    เมื่อครู่ ไอ้ตัวซวยนอนนิ่งไม่ขยับ เขาตกใจกลัวจนฉี่รด

    ไอ้ตัวซวยอัปมงคลจริงๆ  กล้าแสร้งทำเป็นตาย ซัดมันให้หนักกว่านี้อีก ซัดจนกว่ามารดาของมันจำหน้ามันไม่ได้

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อที่กำลังหลับตาอยู่ กำลังคร่ำครวญถึงความยากลำบากในการเป็นผี ทั้งหมัดและฝ่าเท่าพุ่งเข้าใส่ร่างกายของเธอโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า คราวนี้เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจน

    รับรู้ได้ถึงกำปั้นและพื้นรองเท้าที่พุ่งเข้ามากระทบร่างของเธอ

    เจ้าคนต่ำช้าตัวไหนกันกล้าทุบตีคนอย่างเหยี่ยนเสี่ยวซื่อ คงใช้เบื่อชีวิตอย่างเบื่อหน่ายแล้วซินะ

    เธอเค้นเรี่ยวแรงลืมตาขึ้นมา มีลำแสงเยียบเย็นสองสายพุ่งออกมาจากดวงตา มองเจ้าเด็กเหลือขอทั้งสามคนที่กำลังรัวหมัดใส่หน้า เธอขมวดคิ้ว แล้วกลิ้งตัวหลบอย่างรวดเร็ว แล้วใช้ความเร็วในการเก็บก้อนหินจากพื้นขึ้นมาสามก้อน ใช้สายตาเล็งไปยังหัวเข่าของตัวการทั้งสาม ออกแรงดีดหินทั้งสามพุ่งตรงออกไป

    ก้อนหินที่อัดแน่นไปด้วยพลังกระแทกเข้าไปยังหัวเข่าของพี่น้องตระกูลเฉิน พี่น้องตระกูลเฉินรู้สึกชาที่หัวเข่าอยู่ครู่หนึ่งแล้วทั้งหมดก็อยู่ในท่าคุกเข่าลงกับพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อลุกยืน รู้สึกปวดหัวราวกับว่ามันกำลังจะระเบิด ภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอสั่นไหว ความทรงจำบางอย่างที่ไม่ได้เป็นของเธอ หลั่งไหลเข้าในสมองของเธอราวกับสายน้ำ บังคับให้เธอยอมรับมัน

    หลังจากที่ถูกบีบบังคับให้ยอมรับความทรงจำเหล่านั้นจนเสร็จสิ้น ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว เธอในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในนรกแล้วไม่ได้ถูกเด็กเหลือขอรังแก แต่เธอแค่ยืมร่างคนแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง กลายเป็นบุตรชายคนเล็กของบ้านสายสามแห่งตระกูลเหยี่ยนแห่งของหมู่บ้านเส้าเหยา ตำบลต้าซิง อำเภอซีเจ๋อ  ของราชวงศ์ต้าฉู่

    บุตรชายคนเล็ก!

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อสีหน้าตื่นตระหนก เป็นไปได้ไหมที่เป็นการยืมศพเพื่อฟื้นชีพ แล้วดันเข้าไปอยู่ในร่างของผู้ชาย

    ให้ตายเถอะ เธอไม่ได้อยากเป็นผู้ชายสักนิด

    ต่อหน้าพี่น้องตระกูลเฉิน เธอที่มีสีหน้าอมทุกข์ กำลังแก้มัดผ้าพูกเอว

    การกระทำของเธอ ทำให้สามพี่น้องตระกูลเฉินตกตะลึง

    พอเหยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่ได้คลำถูกอะไรบางอย่าง เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดี โชคดีจริงๆ

    โชคยังดีที่เธอยังเป็นผู้หญิงอยู่

    บทที่ 2 พี่ใหญ่ที่แสนดี

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่ได้คลำเจอเจ้าแท่งนั้น เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วครุ่นคิดอย่างละเอียด

    นางเป็นเด็กสาวชัดๆ แล้วทำไมถึงแต่งตัวเป็นเด็กชายล่ะ?

    ที่แท้เธอในชาตินี้ เป็นลูกของนางจงมารดาเจ้าของร่าง สามท้องแรกล้วนเกิดมาเป็นบุตรสาวทั้งหมด สองผู้เฒ่าตระกูลเหยี่ยนที่ให้ความสำคัญกับหลานชายมากกว่าหลานสาว นางเลยถูกรังเกียจ  นายท่านผู้เฒ่าและฮูหยินผู้เฒ่าทิ้งท้ายว่า หากท้องที่สี่ยังเป็นบุตรสาว จะให้เหยี่ยนป๋อเหวินซึ่งเป็นบิดาเจ้าของร่าง รับอนุเข้ามา บิดาเจ้าของร่างที่เป็นคนยึดมั่นในความรัก พอรู้ว่ามารดาเจ้าของร่างให้กำเนิดบุตรสาวออกมาเป็นท้องที่สี่ เขารีบนำผ้ามาห่อตัวเด็ก แล้วอุ้มไปให้สองผู้เฒ่าดูแล้วบอกว่านี่เป็นบุตรชาย

    เพราะเจ้าของร่างเดิมที่เกิดออกมา ดันมีไฝรองน้ำตาสีแดงที่มุมตา สองผู้เฒ่าของตระกูลเหยี่ยนรู้สึกว่าเขาอาจจะเป็นต้นเหตุของความโชคร้าย สองผู้เฒ่าเพียงชำเลืองมองไม่คิดจะอุ้ม

    อีกทั้งตอนนางจงคลอดบุตร สองผู้เฒ่าตระกูลเหยี่ยนจงใจกลั่นแกล้งลูกสะใภ้ ไม่ได้เชิญหมอมาทำคลอดให้ เป็นนางจงที่ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเบ่งเด็กออกมา คุณชายสามเหยี่ยนป๋อเหวินบอกสองผู้เฒ่าตระกูลเหยี่ยนว่าเป็นบุตรชาย ทั้งสองก็เชื่อสนิทใจ

    คนที่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมเป็นเด็กสาวมีแต่เหยี่ยนป๋อเหวินกับนางจงเท่านั้น เจ้าของร่างเดิมยังอายุไม่ถึงหนึ่งปี เหยี่ยนป๋อเหวินก็ได้จากโลกนี้ไป ตอนนี้มีเพียงนางจงที่รู้ว่าเจ้าของร่างเป็นเด็กหญิง นางจงไม่เคยให้เหยี่ยนเสี่ยวซื่อกับพี่สาวทั้งสามอาบน้ำด้วยกัน พี่สาวทั้งสามก็ยังไม่รู้เรื่องเพศของนาง

    พี่ใหญ่ พี่รอง เหตุใดข้าขยับตัวไม่ได้

    เฉินซานเหอจู่ๆก็ตะโกนเสียงดังออกมา

    ได้ยินเสียงตะโกนของเฉินซานเหอ เฉินต้าเหอ เฉินเอ้อเหอก็ลองขยับขาดู  แต่กลับพบว่าขาของตัวเองเหมือนเสาไม้ต้นหนึ่งไม่มีความรู้สึกเลย

    เฉินต้าเหอและเฉินเอ้อเหอหน้าซีดไปชั่วขณะ

    เฉินต้าเหอจ้องเขม็งไปยังเหยี่ยนเสี่ยวซื่อ เหยี่ยนเสี่ยวซื่อ เจ้าตัวซวย เจ้าทำอะไรกับพวกเราสามพี่น้องกัน?

    เหยี่ยนเสี่ยวซื่อยกยิ้มมุมปาก

    เธอไม่ใช่เหยี่ยนเสี่ยวซื่อคนเก่า ที่อ่อนแอ ถูกคนกลั่นแกล้ง ไม่มีกล้าต่อต้าน นางเป็นเหยี่ยนเสี่ยวซื่อที่ มาจากหน่วย183ของ กองทัพภาคสนามจากศตวรรษที่21 เป็นแพทย์ทหารฝีมือต้นๆของกองทัพภาคสนาม หากทำให้เธอขุ่นเคืองใจ แม้แต่ท่ายยม เธอจะให้เขาได้รับบทเรียนอย่างสาสม

    พวกเจ้าไม่ใช่ว่าข้าเป็นตัวซวยหรอกหรือ? ขอโทษด้วย ที่ข้าพึ่งจะเอาชนะพวกเจ้าไป

    คนในสมัยโบราณงมงายในเรื่องเทพเจ้าอย่างมาก เมื่อถูกเธอพูดออกมา

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1