Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน
วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน
วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน
Ebook129 pages23 minutes

วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน

Rating: 5 out of 5 stars

5/5

()

Read preview

About this ebook

"สงวนสิทธิ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้ภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ การนําข้อความส่วนหนึ่งส่วนใดของหนังสือเล่มนี้ไปใช้ต้องได้รับอนุญาตจากสํานักพิมพ์ เว้นแต่การอ้างข้อความสั้น ๆ ในบทวิจารณ์ หรือบทความ"

Languageภาษาไทย
Release dateJul 3, 2018
ISBN9781641356534
วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน
Author

Dag Heward-Mills

Bishop Dag Heward-Mills is a medical doctor by profession and the founder of the United Denominations Originating from the Lighthouse Group of Churches (UD-OLGC). The UD-OLGC comprises over three thousand churches pastored by seasoned ministers, groomed and trained in-house. Bishop Dag Heward-Mills oversees this charismatic group of denominations, which operates in over 90 different countries in Africa, Asia, Europe, the Caribbean, Australia, and North and South America. With a ministry spanning over thirty years, Dag Heward-Mills has authored several books with bestsellers including ‘The Art of Leadership’, ‘Loyalty and Disloyalty’, and ‘The Mega Church’. He is considered to be the largest publishing author in Africa, having had his books translated into over 52 languages with more than 40 million copies in print.

Related to วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน

Related ebooks

Reviews for วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน

Rating: 5 out of 5 stars
5/5

1 rating0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    วิญญาณชั่ว และ วิธีจัดการกับพวกมัน - Dag Heward-Mills

    บทที่ 1

    รูปแบบสูงสุดของกิจกรรมของวิญญาณชั่ว

    ฝ่ายพระองค์กับเหล่าสาวกก็ข้ามทะเลไปยังเมืองชาวกาดารา

    พอพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือ ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งออกจากอุโมงค์ฝังศพมีผีโสโครกสิงได้มาพบพระองค์ คนนั้นอาศัยอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพ และไม่มีผู้ใดจะผูกมัดตัวเขาได้ แม้จะล่ามด้วยโซ่ตรวนก็ไม่อยู่ เพราะว่าได้ล่ามโซ่ใส่ตรวนหลายหนแล้ว เขาก็หักโซ่และฟาดตรวนเสีย ไม่มีผู้ใดมีแรงพอที่จะทำให้เขาสงบได้

    เขาคลั่งร้องอึงอยู่ตามอุโมงค์ฝังศพและที่ภูเขาทั้งกลางคืนและกลางวันเสมอ และเอาหินเชือดเนื้อของตัว

    ครั้นเขาเห็นพระเยซูแต่ไกล เขาก็วิ่งเข้ามานมัสการพระองค์ แล้วร้องเสียงดังว่า "ข้าแต่พระเยซู

    พระบุตรของพระเจ้าสูงสุด ข้าพระองค์เกี่ยวข้องอะไรกับพระองค์เล่า ข้าพระองค์ขอให้พระองค์ปฏิญาณในพระนามของพระเจ้าว่า จะไม่ทรมานข้าพระองค์ ที่พูดเช่นนี้ เพราะพระองค์ได้ตรัสแก่มันว่า เจ้าผีโสโครก จงออกมาจากคนนั้นเถิด"

    แล้วพระองค์ตรัสถามมันว่า เจ้าชื่ออะไร ? มันตอบว่า ชื่อกอง เพราะว่าพวกข้าพระองค์หลายตนด้วยกัน มันจึงอ้อนวอนพระองค์เป็นอันมากมิให้ขับไล่มันออกจากแดนเมืองนั้น มีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่ไหล่เขาตำบลนั้น ผีเหล่านั้นก็อ้อนวอนพระองค์ว่า ขอโปรดให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าในสุกรเหล่านี้เถิด

    พระเยซูก็ทรงอนุญาตทันที แล้วผีโสโครกนั้นจึงออกไปเข้าสิงอยู่ในสุกร สุกรทั้งฝูง (ประมาณสองพันตัว) ก็วิ่งกระโดดจากหน้าผาชันลงไปในทะเลสำลักน้ำตาย ฝ่ายคนเลี้ยงสุกรนั้นต่างคนต่างหนีไปเล่าเรื่องทั้งในนคร และบ้านนอก แล้วคนทั้งปวงก็ออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น

    เมื่อเขามาถึงพระเยซู ก็เห็นคนที่ผีทั้งกองได้สิงนั้นนุ่งห่มผ้านั่งอยู่มีสติอารมณ์ดี เขาจึงเกรงกลัวนักแล้วคนที่ได้เห็นก็เล่าเหตุการณ์ซึ่งบังเกิดแก่คนที่ผีสิงนั้น และซึ่งบังเกิดแก่ฝูงสุกรให้เขาฟัง

    คนทั้งหลายจึงเริ่มพากันอ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จไปเสียจากเขตแดนเมืองของเขา

    เมื่อพระองค์กำลังเสด็จลงเรือ คนที่ผีได้สิงแต่ก่อนนั้นได้อ้อนวอนขอติดตามพระองค์ไป

    พระเยซูไม่ทรงอนุญาต แต่ตรัสแก่เขาว่า จงไปหาพวกพ้องของเจ้าที่บ้าน แล้วบอกเขาถึงเรื่องเหตุการณ์ใหญ่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำแก่เจ้า และได้ทรงพระเมตตาแก่เจ้าแล้ว

    ฝ่ายคนนั้นก็ทูลลา แล้วเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรีถึงเหตุการณ์ใหญ่ที่พระเยซูได้ทรงกระทำแก่เขา และคนทั้งปวงก็ประหลาดใจนัก

    มาระโก 5:1-20

    การศึกษาเรื่องคนวิกลจริตที่กาดาราเป็นการศึกษาเรื่องพยาธิวิทยาของกิจกรรมของวิญญาณชั่ว คุณจะเรียนรู้

    หลายอย่างเกี่ยวกับซาตาน และพวกวิญญาณชั่ว โดยการศึกษาแค่กรณีนี้ หลายคนแปลกใจว่า พยาธิวิทยาเป็นเรื่องของสิ่งใด หลายครั้ง เราแปลกใจว่า ทำไมบางคนจึงใช้เวลาของเขาศึกษาร่างกายที่ตายแล้ว เมื่อผมเป็นนักศึกษาแพทย์ ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเป็นจึงสิ่งที่สำคัญมากที่หมอจะต้องใช้เวลาผ่าศพของคน ผมคิดว่า เมื่อพวกเขาตายไปแล้ว พวกเขาก็ตายไปแล้ว ปล่อยพวกเขาไว้อย่างนั้นเถิด !

    อย่างไรก็ดี ผมมาถึงความเข้าใจว่า พยาธิวิทยาเป็นการศึกษาถึงผลของโรคภัยไข้เจ็บที่มีต่อร่างกายของมนุษย์ มันเป็นการศึกษาถึงผลสูงสุดของโรค กล่าวคือ เพื่อที่จะเข้าใจว่า อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าโรคภัยไข้เจ็บได้รับอนุญาตให้เกิดผลเต็มที่ คุณะต้องศึกษาพยาธิวิทยา หลายครั้งมีเพียงแต่ในร่างกายที่ตายแล้วเท่านั้น ที่คุณจะเห็นผลสูงสุดที่โรคภัยไข้เจ็บได้ทำให้เกิดขึ้น

    ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณผ่าศพของผู้ชายที่ตาย เพราะโรคความดันโลหิตสูงเป็นระยะเวลานาน คุณจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในหัวใจ, หลอดเลือก และไตของเขา การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า โรคความดันโลหิตสูงมีผลต่อคนที่เป็นโรคนี้ ซึ่งยังมีชีวิตอยู่อย่างไร

    โดยการศึกษาศพ, ซึ่งมีประสบการณ์กับการสำแดงของโรคบางอย่างอย่างเต็มที่ หมอก็จะเข้าใจเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างมากขึ้นมาก เช่นเดียวกัน โดยการศึกษาเรื่องคนวิกลจริตที่กาดารา คุณจะเข้าใจถึง

    ผลสูงสุดที่กิจกรรมของวิญญาณชั่วมีผลต่อมนุษย์

    เรื่องราวของคนวิกลจริตที่กาดารา เป็นการศึกษาถึงเรื่องการแทรกซึมของวิญญาณชั่วแบบที่รุนแรงที่สุด มันเป็นการเปิดเผยให้รู้ว่า ซาตานอยากจะทำอะไรกับคุณ ถ้ามันมีโอกาส คุณลักษณะทุกอย่างแห่งการคงอยู่ของคนวิกลจริตคนนี้เปิดเผยถึงลักษณะนิสัยของวิญญาณชั่ว สภาพต่าง ๆ ของเขาแสดงถึงแง่มุมต่าง ๆ ของนิมิตของซาตานที่มีต่อคุณ และผม ถ้าซาตานมีโอกาส คุณ และผมจะจบลงด้วยสภาพอย่างเดียวกัน

    แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ได้มาถึงสภาพเต็มที่ของ คนวิกลจริตที่กาดารา พวกเราส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์กับอาการที่น้อยกว่าของของวิญญาณชั่วแบบเดียวกัน ซึ่งสำแดงออกในชายวิกลจริตนี้

    คำพยานของชายวิกลจริตที่กาดาราแสดงให้เราเห็น 3 สิ่ง :

    1. สิ่งที่พวกวิญญาณชั่วต้องการที่จะทำกับคุณ ถ้าพวกมันมีโอกาส

    2. สิ่งที่พวกวิญญาณชั่วกำลังทำต่อคน ถึงแม้ว่าจะค่อย ๆ ทำก็ตาม

    3. สภาพสุดท้ายของบุคคล ซึ่งพวกวิญญาณได้สำแดงออกอย่างเต็มที่

    เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ พระเจ้าจะเปิดเผยให้คุณรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของพวกวิญญาณชั่ว และผลกระทบที่พวกมันมีต่อคุณ

    คุณจะได้รับการบำบัดปลดปล่อยจากกิจกรรมของวิญญาณชั่ว เมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบ

    หลายคนคิดว่า คำพยานของคนวิกลจริตที่กาดาราเป็นเรื่องราวของคนบ้าที่อยู่ในสถาบันโรคจิต พวกเขาคิดกับตัวเองว่า เพราะว่าฉันไม่ได้เป็นคนวิกลจริต เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แต่จริง ๆ แล้ว คำพยานนี้เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเราทุกคน

    การเข้าใจถึงกิจกรรม และเจตนาของศัตรูเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการชนะสงคราม ถ้าคุณต้องการที่จะชนะ

    การต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่ว คุณต้องรู้วิธี และสถานที่ที่ศัตรูของคุณทำงาน คุณต้องรู้ว่า ศัตรูของคุณกำลังวางแผนต่อสู้คุณอย่างไร

    เพื่อไม่ให้ซาตานมีชัยเหนือเรา เพราะเรารู้กลอุบายของมันแล้ว

    2 โครินธ์ 2:11

    บทที่ 2

    ความมืด –– บ้านของพวกวิญญาณชั่ว

    ... เราต่อสู้ ... กับผู้ปกครองความมืดแห่งโลกนี้ ...

    เอเฟซัส 6:12

    ความมืดของโลกนี้ คือ บ้านของพวกวิญญาณชั่ว ความมืดเป็นการพูดถึงสภาพแวดล้อมที่พวกวิญญาณชั่วเจริญรุ่งเรือง ซาตานครอบครองในความมืดของโลกนี้ การหลอกลวงเป็นลักษณะหนึ่งของความมืดฝ่ายวิญญาณ นี่เป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมของการหลอกลวง คือ พื้นที่แห่งการเจริญพันธุ์ของพวกวิญญาณชั่ว

    ความมืดเป็นเพียงสภาพบรรยากาศของการหลอกลวงภายใต้การทำงานของซาตาน ศัตรูที่พ่ายแพ้ของเราเจริญรุ่งเรืองในความมืดที่ลึกที่สุด มันไม่มีโอกาสอะไร เมื่ออยู่ในความสว่าง นี่เป็นสาเหตุที่ซาตานกลัว

    พระวจนะของพระเจ้ามาก

    พระเยซู เป็นความสว่างที่ทำลายอิทธิพลที่ซาตานมีต่อมนุษย์ พระองค์เป็นพระวาทะของพระเจ้า

    พระวจนะของพระเจ้า คือ แสงสว่างที่ส่องเข้าไปในความมืด กิจกรรมของวิญญาณชั่วถูกทำให้ลดลงอย่างมาก เมื่อพระวจนะของพระเจ้าได้ถูกสอน

    ความสว่างนั้นส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้เข้าใจความสว่างไม่

    ยอห์น 1:5

    ฤทธิ์อำนาจของซาตานที่ต่อต้านคริสตจักรสามารถเปรียบเทียบกับสงคราม และความขัดแย้งมากมายที่อยู่ในโลกทุกวันนี้ เมื่อฝั่งที่เหนือกว่าต่อสู้กับกองทัพที่อ่อนแอกว่า หลายครั้ง ฝั่งที่อ่อนแอกว่ารู้ว่า เขาไม่มีโอกาส

    ที่จะชนะในการต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้าอย่างเปิดเผยได้ ดังนั้น เขาก็จะซ่อนตัว และต่อสู้จากที่ซ่อน, การหลอกลวง และความมืด หลาย ๆ ครั้ง สิ่งนี้ทำให้เกิดสงครามกองโจร และกิจกรรมของพวกผู้ก่อการร้าย

    ยกตัวอย่างเช่น กองทัพของอิสราเอลเหนือกว่ากองทัพของปาเลสไตน์มาก พวกปาเลสไตน์ไม่มีโอกาสที่จะชนะกำลังทางการทหารของอิสราเอลได้ มีการพูดถึงด้วยว่า อิสราเอลมีระเบิดนิวเคลียร์ด้วย เนื่องจากปาเลสไตน์ไม่มีโอกาสชนะสงคราม พวกเขาจึงใช้ระเบิดพลีชีพ และกิจกรรมของพวกผู้ก่อการร้าย การจี้เครื่องบิน และการฆ่าทีมนักกีฬาโอลิมปิคของอิสราเอลก็เป็นตัวอย่างบางอย่างของการสงครามของฝั่งที่อ่อนแอกว่าทำ

    การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในวันที่ 11 กันยายน ก็เป็นตัวอย่างอีกอันหนึ่ง ที่กองทัพที่อ่อนแอ และเล็กกว่าทำต่อต้านกองทัพที่ใหญ่กว่า เช่นเดียวกับที่กองทัพของพวกวิญญาณชั่วที่ทำต่อคริสตจักร ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกับฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าได้ อาวุธในการทำสงครามของเรานั้นมีอานุภาพอันยิ่งใหญ่

    เพราะว่าศาสตราวุธแห่งการสงครามของเราไม่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง แต่มีอานุภาพอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้าที่จะทลายป้อมอันแข็งแกร่งลงได้

    2 โครินธ์ 10:4

    ซาตานตัวสั่นเมื่อมีการกล่าวถึงพระนามของพระเยซู พวกวิญญาณชั่วสั่นสะท้าน เมื่อเราร้องเพลงเกี่ยวกับพระโลหิต เมื่อพวกมันเห็นพระโลหิต พวกมันเลี่ยงไปที่อื่น พระวจนะของพระเจ้าเป็นพระแสงที่มีอานุภาพ

    ซึ่งหั่นพวกทูตสวรรค์ที่ล้มลงในบาป และพวกวิญญาณชั่วเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ในโลกฝ่ายวิญญาณ พวกเราเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่กำลังต่อสู้กับกองทัพของคนพื้นเมืองที่กำลังกวัดแกว่งดาบอยู่

    เนื่องจากวิญญาณชั่วไม่มีโอกาสเอาชนะเราได้ วิธีการหลักของมันก็คือ ผ่านทางการใช้อุบายหลอกลวง พระคัมภีร์เรียกสิ่งเหล่านี้ว่า ยุทธอุบายของพญามาร ดังนั้น ความพยายามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราก็คือ

    การเปิดเผยเล่ห์กล และกับดักของศัตรูที่หลอกลวงนั่นเอง

    เชื่อหรือไม่ว่า หนึ่งในเล่ห์กลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของศัตรูก็คือ การทำให้คนเชื่อว่า มารไม่ได้มีอยู่จริง ซาตานได้ใช้การโกหกที่น่าพิศวงนี้อย่างประสบความสำเร็จอย่างมากกับคนยุโรปจำนวนมากที่ไม่ได้สงสัยอะไรเลย ประเทศในทวีปยุโรปส่วนใหญ่ถูกห้อมล้อมด้วยกองทัพของวิญญาณชั่วจำนวนมากมาย ทางเท้า

    ที่เป็นระเบียบ และถนนที่แปลกตากับตึกที่ถูกตกแต่งอย่างสมบูรณ์แบบจะหลอกลวงคนที่ไม่สนใจในเรื่องฝ่ายวิญญาณว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ผมเชื่อว่า ยุโรปเป็นทวีปที่มืดมิดที่สุดในจักรวาลนี้ มันมีชุมชนที่ไร้ศีลธรรม และไร้พระเจ้ามากที่สุดในโลกนี้ มารประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุโรป เพราะมันสามารถทำให้พวกเขาเชื่อว่า มันไม่ได้มีอยู่จริง ผ่านทางการหลอกลวงที่ทรงพลัง โสโดม และโกโมราห์ก็ได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่

    ยิ่งตาของคุณเปิดออกต่อฝ่ายวิญญาณมากเท่าไร ยุทธอุบายของพญามารก็ยิ่งถูกเปิดเผยออกมากเท่านั้น

    บทที่ 3

    ฤทธิ์อำนาจของพระคริสต์เผชิญหน้ากับกิจกรรมของวิญญาณชั่ว

    ในวันนี้

    พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อ ๆ ไปเป็นนิจกาล

    ฮีบรู 13:8

    พระเยซูคริสต์ยังทรงเหมือนเดิมในเวลาวานนี้ และเวลาวันนี้ และต่อ ๆ ไปเป็นนิจกาล หนึ่งในสิ่งสามัญที่ผมเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ (นั่นคือ บนโลก) คือ สิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อบางคนเจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลาหลายปี พวกเขายิ้ม, พวกเขาคุยกัน และบางครั้ง พวกเขาดื่มด้วยกัน

    หลังจากนั้นสักครู่

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1