Discover millions of ebooks, audiobooks, and so much more with a free trial

Only $11.99/month after trial. Cancel anytime.

เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง
เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง
เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง
Ebook441 pages44 minutes

เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง

Rating: 0 out of 5 stars

()

Read preview

About this ebook

เมื่อซู่หรูเสวี่ยตื่นขึ้นมา นางก็พบว่านางเกิดใหม่ข้ามมิติมาถึงยุคโบราณ กลายเป็นพระชายาอัปลักษณ์ของจ้านอ๋องเทพเจ้าสงครามที่ตาบอด
เพียงแต่ท่านอ๋องไม่ได้รับความโปรดปราน แถมนางยังถูกคนนับพันวิพากษ์วิจารณ์อีกด้วย!พี่น้องไม่ชอบนาง ครอบครัวสามีรังแกนาง...ทนไม่ไหวแล้ว!
ข้าต้องให้พวกเจ้ารู้ความสามารถของข้า นางลงโทษศัตรู ช่วยรักษาตาบอดของสามี และช่วยเขาเป็นฮ่องเต้
เมื่อถึงทั้งสองคนร่วมปกครองอาณาจักร ทุกคนพบว่า ใครบอกว่าหวางเฟยเราอัปลักษณ์ ที่แท้จริงนางงานสุดในโลก!

Languageภาษาไทย
PublisherPublishdrive
Release dateDec 12, 2022
เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง

Related to เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง

Titles in the series (1)

View More

Related ebooks

Related categories

Reviews for เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง

Rating: 0 out of 5 stars
0 ratings

0 ratings0 reviews

What did you think?

Tap to rate

Review must be at least 10 words

    Book preview

    เกิดใหม่เป็นหวางเฟยอัปลักษณ์ของท่านอ๋อง - PopNovel

    สารบัญ

    บทที่ 1 เทพธิดาลงมาจุติโลก

    บทที่ 2 แสดงความเมตตา

    บทที่ 3 เขาตาบอดจริงๆใช่ไหม?

    บทที่ 4 สองฝ่ามือตบหน้าเพียะเพียะ

    บทที่ 5 ข้าขอโทษ

    บทที่ 6 รับปากกลับบ้านเป็นคู่เจ้า

    บทที่ 7 ยิ้มออกมาเหมือนกับผี

    บทที่ 8 ส่งของขวัญ

    บทที่ 9 กลับบ้าน

    บทที่ 10 ทะเลาะกันกลางถนน

    บทที่ 11 ตอนนี้จะแบ่งแยกกัน

    บทที่ 12 ด่าบิดา

    บทที่ 13 โจรเรียกจับโจร

    บทที่ 14 ปกป้องนาง

    บทที่ 15 ดวงดาวและดาวนำโชค

    บทที่ 16 อุกกาบาตที่เกิดการตอบสนอง

    บทที่ 17 ชื่อเสียงอัปลักษณ์ของพระชายาสมคำร่ำลือ

    บทที่ 18 นางเป็นมนุษย์หรือปีศาจกันแน่?

    บทที่ 19 ให้บทเรียนกับนาง

    บทที่ 20 ตั้งครรภ์

    บทที่ 21 เป็นข้าที่หลอกตัวเองมาโดยตลอด

    บทที่ 22 มีใจสังหาร

    บทที่ 23 ผู้หญิงคนนี้แค้นฝังใจจริงๆ

    บทที่ 24 เขาถึงจะเหมาะสมเป็นผู้สืบราชสมบัติ

    บทที่ 25 กลุ่มคนยากจน

    บทที่ 26 ดีที่สุดคือคลอดลูกสาว

    บทที่ 27 ในท้องของเจ้าก็คือเป้านิ่ง

    บทที่ 28 คนที่ไม่เข้าใจก็คือท่านอ๋องนั่นแหละ

    บทที่ 29 สู้ปากสุนัขของซูหรูเสวี่ยไม่ได้

    บทที่ 30 กำจัดปานพิษบนใบหน้า

    บทที่ 31 สบายมากใช่ไหม?

    บทที่ 32 เสียใจภายหลังแล้วใช่ไหม

    บทที่ 33 ฟ้าผ่าตอนกลางวัน

    บทที่ 34 เขาจะฆ่าซูหรูเสวี่ยทิ้ง

    บทที่ 35 ท่านอ๋องถูกหมูชน!

    บทที่36 นางเข้าครัวทำอาหารขอโทษด้วยตัวเอง

    บทที่ 37 ท่านอ๋องเรียกชิวซวงปรนนิบัติ

    บทที่ 38 เจ้าไม่ได้ใส่ยาพิษใช่ไหม?

    บทที่ 39 ไม่พอใจรุ่ยอ๋อง

    บทที่ 40 ไท่ช่างหฺวังแสดงอำนาจ

    บทที่ 41 ทายผิดข้าก็กินเจ้า

    บทที่ 42 เจ้าถึงขั้นบอกว่าหรูอวี้เป็นคนนอก

    บทที่ 43 การเลือกของลู่เป่ยหาน

    บทที่ 44 ในของขวัญซ่อนงูพิษไว้

    บทที่ 45 อดทนอีกหน่อยเถอะ ไม่แน่พรุ่งนี้ก็ตายแล้ว

    บทที่ 46 ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าอยากอยู่เงียบๆ

    บทที่ 47 นังมาร เจ้ามาจากที่ไหน?

    บทที่ 48 ดวงตาของเขาเห็นแสงสว่างอีกครั้ง

    บทที่ 49 ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นผู้ชายเร็วขนาดนี้!

    บทที่ 50 หลงรักนังมารทั้งดุร้ายทั้งน่าเกลียดแล้ว

    บทที่ 51 ลงโทษชิวซวง

    บทที่ 52 ถูกวางยา

    บทที่ 53 ทักษะมือ ท่านอ๋องคงไม่เลว

    บทที่ 54 ไม่หาเรื่องใส่ตัวก็ไม่ตาย

    บทที่ 55 อย่าโทษว่าฉันไม่มีจรรยายุทธ

    บทที่ 56 ในท้องมีสองคน

    บทที่ 57 แพ้ทางนังมารแล้ว

    บทที่ 58 ขโมยจูบ

    บทที่ 1 เทพธิดาลงมาจุติโลก

    ซูหรูเสวี่ยเข้าจวนจ้านอ๋องของข้าแล้ว ห้ามเจ้าวางแผนชั่วร้ายอีก!

    ไม่อย่างนั้น ข้าจะหย่ากับเจ้าในทันที!

    วันมหามงคล ภายในจวนจ้านอ๋องเต็มไปด้วยสีแดง แต่กลับมีแขกไม่กี่คน

    บนตัวเจ้าสาว ซูหรูเสวี่ยสวมชุดแต่งงานสีแดง และผ้าคลุมหน้าสีแดงบนศีรษะถูกนางปลดลงแล้ว นัยน์ตานางเต็มไปด้วยความโกรธแค้นมองไปที่ชายหนุ่มสวมชุดมงคล ดวงตาสีดำว่างเปล่า สีหน้าเศร้าหมองตรงหน้า

    ลู่เป่ยหาน ท่านคิดจริงๆหรือว่าข้าอยากได้ตำแหน่งพระชายาจ้านอ๋อง?

    นอกจากนี้ อ๋องตาบอดคนหนึ่งอย่างท่าน จะทำอะไรข้าได้!

    ลู่เป่ยหาน เป็นบุตรชายของจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน จ้านอ๋องเทพเจ้าสงครามแห่งราชวงศ์ต้าโจว น่าเสียดาย กลับได้รับบาดเจ็บในสนามสงครามครั้งหนึ่ง กลายเป็นคนตาบอดคนหนึ่ง

    ชื่อเสียงเทพเจ้าสงคราม หายไปนานแล้ว!

    เผชิญหน้ากับการถากถางเช่นนี้ลู่เป่ยหานยังคงนิ่งเฉย

    ไหฺวอ๋องลู่จื่อเฉิงซึ่งนั่งรถเข็นอยู่ข้างๆ กลับระงับความโกรธนี้ไม่ได้ สตรีเช่นเจ้ารังแกคนอื่นมากเกินไปแล้วจริงๆ! หากมิใช่เจ้าวางยาพี่สามของข้า ฉวยโอกาสยามค่ำคืนปีนขึ้นบนเตียงของเขา พระชายาจ้านอ๋อง ไหนเลยจะถึงคราวของเจ้า!

    ครั้นพูดถึงเรื่องวางยาปีนขึ้นเตียง ซูหรูเสวี่ยก็อารมณ์เสีย

    นางชี้ไปที่สาวสวยยืนข้างกายลู่จื่อเฉิงพูดด้วยความโมโหว่า ข้าจะพูดอีกครั้งเรื่องวางยาไม่เกี่ยวข้องใดๆกับข้า เป็นแผนที่นังชั่วซูหรูอวี้วางไว้ ข้าก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน!

    เห็นชัดว่าซูหรูอวี้ตกใจกับคำพูดนี้ของนาง ใบหน้าหวาดหวั่นมึนงง พี่สาว พี่กำลังพูดเหลวไหลอะไร? น้องสาวมิเคยทำเรื่องเช่นนี้มาก่อน

    ถึงแม้ลู่จื่อเฉิงจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่เขาก็ปกป้องซูหรูอวี้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมทันที

    เจ้าใส่ร้ายคนอื่นน้อยๆหน่อย! ใครๆ ก็รู้ว่า อวี้เอ่อร์และพี่สามเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบัน ทั้งสองคนเป็นเพื่อนในวัยเด็ก ไม่ทอดทิ้งห่างกันไปไหน หลังจากพี่สามสูญเสียการมองเห็น ยังเป็นอวี้เอ่อร์เคียงข้างอยู่ตลอด ความใส่ใจที่อวี้เอ่อร์มีต่อพี่สาม ฟ้าดินเป็นพยาน!

    นางจะสร้างสถานการณ์เช่นนี้ ประเคนพี่สามให้ได้อย่างไร

    เห็นชัดว่าตัวเจ้าชื่นชมพี่ใหญ่มานานแล้ว หญิงอัปลักษณ์คนหนึ่ง กลับเพ้อฝันอยากปีนขึ้นกิ่งสูง วางยาพี่ใหญ่ไม่สำเร็จ เคราะห์ภัยจึงตกมาบนตัวพี่สาม!

    หญิงจิตใจดำอำมหิตเช่นเจ้า ไม่เหมาะสมคู่ควรกับพี่สามของข้า!

    ซูหรูเสวี่ยถูกคำด่านี้ อดยิ้มเยาะมิได้ ที่ผ่านมา ข้าเห็นพวกเจ้าสองคนพี่น้อง คนหนึ่งตาบอด อีกคนพิการ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเจ้าจะมีสมองพิการสูญเสียหัวใจ!

    ตั้งแต่ลู่เป่ยหานตาบอด ซูหรูอวี้ก็รู้ว่าเขาไร้วาสนาต่อตำแหน่งรัชทายาท เปลี่ยนเป้าหมายไปที่รุ๋ยอ๋องนานแล้ว! นางถึงได้วางกลอุบาย ผลักข้าให้ลู่เป่ยหาน แผนการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเช่นนี้ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!

    ทั้งสลัดลู่เป่ยหาน และยังรักษาชื่อเสียงเอาไว้ ซูหรูอวี้วางแผนคิดคำนวณได้เก่งจริงๆ

    ลู่เป่ยหานที่ทำหน้าเข้มเงียบไม่พูด ในเวลานี้ก็ตะคอกอย่างโกรธแค้นออกมา พอแล้ว! ซูหรูเสวี่ย ข้าเห็นแก่หน้าของอวี้เอ่อร์ ถึงอดทนแล้วอดทนเล่ากับเจ้า หากเจ้ายังไร้มารยาทอีก อย่าโทษข้าไม่เกรงใจ!

    ซูหรูเสวี่ยยิ้มเย็นเหยียดหยาม "ท่านอยากจะไม่เกรงใจอย่างไร? ราชาสงครามอันดับหนึ่งอะไร ก็แค่ลูกนอกคอกที่เกิดจากนางกำนัลปีนขึ้นเตียงเท่านั้น!

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของลู่เป่ยหานก็ดำมืดสนิท

    ซูหรูเสวี่ย ให้พอประมาณก็สมควรหยุดซะ!

    เป็นความจริงมารดาของเขาเป็นเพียงนางกำนัลคนหนึ่ง ชาติกำเนิดไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่ให้ซูหรูเสวี่ยดูถูกได้อย่างนี้!

    เขาก้าวไปข้างหน้า คว้าคอเสื้อของซูหรูเสวี่ยใช้แรงเหวี่ยงออกไป!

    ถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นแต่เคยผ่านการต่อสู้ในสนามรบ วรยุทธ์สูงส่ง จัดการสาวน้อยคนหนึ่ง สำหรับเขาราวกับบดขยี้มดตัวหนึ่งให้ตาย

    หลังของซูหรูเสวี่ยกระแทกกับเสา นางทรุดลงพื้นอย่างแรง กระอักเลือดออกมาในทันที

    ลู่จื่อเฉิงบนรถเข็นเห็นแบบนี้ ยิ้มเยาะราวกับดูการแสดง

    ซูหรูอวี้เห็นแบบนี้ ขมวดคิ้วอย่างกังวลเดินหน้าห้ามปรามลู่เป่ยหาน ศิษย์พี่ ท่านอย่าโกรธเลย พี่สาวไม่ได้หมายความอย่างนั้น นาง...

    ก่อนจะพูดจบ หลู่จื้อเฉิงก็พูดว่า อวี้เอ่อร์ รู้ว่าเจ้าจิตใจดี แต่สิ่งสกปรกเช่นนี้ ไม่คู่ควรให้เจ้าขอร้องแทนนาง

    ซูหรูเสวี่ยที่หมอบอยู่บนพื้นได้ยินบทสนทนาของคนเหล่านี้ เช็ดรอยเลือดที่มุมปากยิ้มเยาะ คว้า แจกันด้านข้างแล้วขว้างตรงไปที่ซูหรูอวี้ พร้อมด่าว่า นังสารเลว! หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะลงเอยแบบนี้ได้อย่างไร!

    อวี้เอ่อร์ ระวัง! ลู่จื่อเฉิงตอบสนองอย่างรวดเร็ว ดึงซูหรูอวี้หลบในมือเดียว

    เพราะแบบนี้ แจกันจึงตกลงบนหัวของลู่จื่อเฉิง

    เหล่าผู้คนที่นี่เงียบไปชั่วครู่ จนกระทั่งข้ารับใช้ตะโกนด้วยความตกใจ ฝ่าบาท ไหฺวอ๋องเป็นลมหมดสติไปแล้ว!

    ลู่จื่อเฉิงเป็นบุตรเพียงคนเดียวของหวงกุ้ยเฟย จะเกิดข้อผิดพลาดไม่ได้สักนิดเดียว

    ในขณะนี้ สีหน้าของลู่เป่ยหานใช้คำว่ามืดมนมาอธิบายไม่ได้แล้ว

    ความรุนแรงราวกับว่าเขาอยากฆ่าคน

    เด็กๆ! เขาตะโกนอย่างเฉียบขาด ลากผู้หญิงบ้าๆ คนนี้ออกไปลงโทษโบยยี่สิบไม้!

    ไม่รอให้ซูหรูเสวี่ยขัดขืน ก็มีคนก้าวไปข้างหน้าลากนางออกไปอย่างหยาบคาย

    สายแส้รุนแรงผสมสายฝนเย็นยะเยือกจีลงบนร่างซูหรูเสวี่ย เนื้อในแตกออก ไม่นานเลือดผสมน้ำฝนตกลงบนพื้น ย้อมพื้นดินเป็นสีแดง

    บนใบหน้าซูหรูเสวี่ยมีปานสีแดงเข้มขนาดใหญ่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่นางถูกด่าว่าหญิงอัปลักษณ์

    ในตอนนี้ ปานสีแดงเข้มบนใบหน้าในยามที่นางเจ็บจนทรมานยิ่งแสดงถึงความโชคร้าย คนรับใช้ที่เดินไปมาอดไม่ได้ที่จะมองนางอย่างดูถูกเหยียดหยาม

    นางเจ็บปวดมาก แต่นางไม่ร้องสักคำ กัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น กัดจนปากมีเลือดไหลออกมา

    ซูหรูอวี้ท่าทางเหมือนอยากช่วยแต่ไม่กล้ายุ่ง พยุงลู่เป่ยหานที่มองไม่เห็นออกจากลานบ้าน นอกจากซูหรูเสวี่ย ไม่มีใครเห็นสายตามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นของนาง

    ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน การลงโทษสิ้นสุดลง ซูหรูเสวี่ยที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ถูกคนโยนเข้าห้องเก็บฟืน นางปิดตาสนิทด้วยความอ่อนแอ ใบหน้าซีดขาว ลมหายใจรวยริน

    ...

    ภายในพระราชวัง

    บูม——!

    มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น สั่นสะเทือนจนร่างฮ่องเต้ที่กำลังจะดื่มชากระตุก

    ในเวลานี้ ดาวดวงหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า กระแทกทะลุหลังคาแล้วตกลงพื้นห้องโถงอย่างแรง ทำให้ข้ารับใช้ในวังคุกเข่าลงขอขมา

    จุติแล้ว... ฮ่องเต้ไม่สนเรื่องการดื่มชา เขามองดูดวงดาวที่ร่วงมาเม็ดนั้น บ่นพึมพำสองสามครั้ง แล้วตะโกนด้วยความดีใจ เทพธิดาที่สามารถส่องสว่างต้าโจวของข้าจุติแล้ว!

    ในเวลาเดียวกัน จวนจ้านอ๋อง ภายในห้องเก็บฟืน ซูหรูเสวี่ยที่วินาทีก่อนหน้านี้ยังเหมือนจะขาดใจตาย ลืมตาขึ้นฉับพลัน!

    บทที่ 2 แสดงความเมตตา

    ในตอนนี้ซูหรูเสวี่ยมีเพียงความรู้สึกเดียว นั่นคือความเจ็บปวดแผดเผาทั่วร่างกาย

    แต่ทว่า นางยังมีชีวิตอยู่

    น่าแปลก พูดในด้านวิธีการขององค์กร นางทรยศต่อองค์กร จุดจบต้องหายสาบสูญไร้ร่างไร้กระดู เป็นไปได้อย่างไรที่นางยังมีชีวิตอยู่?

    นางขยับร่างกาย จู่ๆ ในสมองมีความทรงจำช่วงหนึ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองไหลเข้ามา

    นางนิ่งไปนาน ถึงย่อยความทรงจำเหล่านี้หมด และตระหนักได้อย่างชัดเจน ตัวเองเกิดใหม่ข้ามมิติมาถึงยุคโบราณ กลายเป็นบุตรีสายตรงของจวนเหวินกั๋วกง และเพราะพิธีอภิเษกสมรสที่ไม่สมบูรณ์ ไม่รู้จะนับว่าเป็นพระชายาของจ้างอ๋องได้หรือไม่

    ราวกับมายากลเช่นนี้ แต่นางก็ยอมรับอย่างรวดเร็ว

    ไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่างน้อยนางก็หลุดพ้นจากองค์กร ไม่ต้องถูกองค์กรเห็นเป็นสิ่งทดลองทางชีวภาพแล้ว

    แต่ไม่ทันที่นางจะดีใจ ความเจ็บที่คุ้นเคย ราวกับส่วนลึกก้นบึ้งจิตวิญญาณที่แทบจะทำให้นางตายจู่โจมเข้ามา

    นางตกใจในทันที

    นี่เป็นความรู้สึกตอนที่นางถูกขังทดลองอยู่ในองค์กร ถูกฉีดด้วยยาวิจัยทางจิต s-3 แล้วถึงจะเกิดความรู้สึกนี้ ทำไมเปลี่ยนร่างกายยุคโบราณ นางถึงยังมีความรู้สึกแบบนี้อยู่?

    ไม่นาน ซูหรูเสวี่ยก็ตระหนักถึง ตัวเองเคยได้รับการวิจัยและพัฒนาได้พลังจิต คิดไม่ถึงอยู่ในร่างนี้จะเกิดประโยชน์อีกครั้ง!

    ความเจ็บปวดจากการแปรสภาพพลังจิตนั้นทุกข์ไม่ต่างจากสร้างขึ้นใหม่จากกระดูกที่หัก ซูหรูเสวี่ยทนไม่ไหวกรีดร้องครวญครางออกมาเสียงนั้นคนได้ยินต้องขนลุก

    ด้านนอกห้องเก็บฟืนมีองครักษ์เฝ้าอยู่ ได้ยินเสียงนี้ องครักษ์หดคอลงอย่างอดไม่ได้ มีความกลัวอยู่บ้าง

    ในเวลานี้ สาวใช้ผู้ดูแลภายในจวนเดินมา ถ่ายทอดคำสั่งว่านายท่านมีคำสั่ง พวกเจ้าเฝ้าถึงยามจื่อก็ไปพักผ่อนได้

    หลังจากองครักษ์รับคำสั่ง พูดต่อว่า ข้าน้อยได้ยินพระชายาร้องเสียงดัง คิดว่าคงบาดเจ็บสาหัสมาก ไม่ทราบว่าขอคำแนะนำจากนายท่านหน่อยได้หรือไม่ ดูว่าต้องการเชิญหมอให้พระชายาหรือไม่?

    ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นบุตรีสายตรงของจวนเหวินกั๋วกง หากมีเรื่องอะไรเกิดในจวนพวกเราจริงๆ เหเหวินกั๋วกงต้องหาเรื่องนายท่านแน่ๆ!

    สาวใช้ฟังแล้ว ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างรังเกียจ อย่าว่าแต่บุตรีสายตรงของจวนเหวินกั๋วกงเลย ถึงแม้นางจะเป็นองค์หญิง ทำร้ายไหวอ๋อง ยังหมิ่นเกียรตินายท่านของพวกเรา อย่างไรนางก็ไม่มีผลดีอะไร

    ทำไมต้องเชิญหมอ? นางตายก็สมควรแล้ว หากเหวินกั๋วกงยังมีสมองอยู่บ้างก็เรื่องนี้ทางพวกเขาเสียเปรียบ ไหนเลยยังจะกล้าหาเรื่องนายท่านของเรา?

    สาวใช้พูดขนาดนี้แล้ว องครักษ์ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

    เมื่อถึงยามจื่อ องครักษ์จึงจากไป

    ภายในห้องเก็บฟืน ซูหรูเสวี่ยได้รับความทรมานจากการรวมตัวของพลังจิต ปวดหัวจนใกล้ระเบิด

    ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ตอนที่ได้สติอย่างยากลำบาก บนร่างมีเหงื่อออกเป็นชั้น เสื้อผ้าเปียกโชกไปหมด

    นางตะโกนด้วยเสียงที่แหบแห้ง มีใครอยู่ข้างนอกหรือไม่?

    แต่นอกจากเสียงฝนปรอยๆ ก็ไม่มีใครตอบรับนาง

    รวมพลังจิตเข้าร่างเดิมก็ใช้พลังงานอย่างมาก อีกทั้งร่างนี้ดูเหมือนวันนี้ไม่ค่อยได้กินอะไร ในท้องว่างเปล่า ซูหรูเสวี่ย หิวมากจริงๆ หิวจนปิดตาใกล้จะเป็นลม

    ไม่ได้ ต้องไปหาอะไรกินหน่อย

    ถึงแม้นางเพิ่งมาใหม่ แต่ดีตรงที่รวมพลังจิตเสริมการรับกลิ่นของนางให้ดีขึ้น นางดมกลิ่นหอมของอาหารอยู่ พิงประตูยันผนังออกห้องเก็บฟืนไปหาของกิน 

    ผ่านลานบ้านที่ไม่คุ้นเคยหนึ่ง นางเห็นด้านในยังมีแสงสว่าง มีกลิ่นหอมของอาหารลอยออกมาจางๆ ดวงตานางเปล่งประกายทันที ฝ่าฝนเข้าไป ผลักประตูห้องเบาๆ อยากจะขออาหารสักถ้วยกิน

    ภายในบ้าน ไหฺวอ๋องลู่จื่อเฉิงกำลังหลับตาแช่เท้า ท่าทางอดทนกับความเจ็บปวด

    ขาทั้งสองข้างของเขาพิการ ต้องพึ่งพาการนั่งรถเข็นเคลื่อนที่เสมอมา

    การรับกลิ่นของซูหรูเสวี่ยนั้นยอดเยี่ยม ครู่เดียวนางก็ดมกลิ่นออกว่าในถังนั้นแช่สมุนไพรอะไรบ้าง

    ขิง, พริกไทยเสฉวน, หอมจีน, เฮียเฮียะ, ชังเอ๋อร์จื่อ , เชียงหัว...

    ตุ๋นอาหารสมุนไพรส่วนใหญ่ก็ปรุงผสมประมาณนี้ ดังนั้นนางถึงนึกว่าที่นี่กำลังต้มของกิน แท้ที่จริงแล้วคนเขาแช่ยาขจัดความเย็น

    แต่ว่าในห้องนี้ก็มีของกินอยู่จริงๆ บนโต๊ะมีซาลาเปาไส้เนื้ออยู่หลายชิ้น ซูหรูเสวี่ยเห็นแล้วน้ำลายเกือบจะไหลออกมา

    นางชำเลืองมองชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นอีกครั้ง จำได้ว่าคนนี้คือไหฺวอ๋อง เจ้าของร่างเดิมเป็นเพราะพลาดทำร้ายเขาก็ถูกตีจนตายไป

    คิดถึงตรงนี้ ซูหรูเสวี่ยไม่สนใจมารยาทอะไรแล้ว ผลักประตูออกอย่างหยาบคาย เดินหน้ายืดอเดินเข้าไป

    ตอนแรกลู่จื่อเฉิงยังนึกว่าเป็นคนรับใช้เข้ามา ฟังเสียงเคลื่อนไหวนี้ไม่เหมือน ถึงลืมตาขึ้นทันที เห็นซูหรูเสวี่ยที่เสื้อผ้าฉีกขาดจากการถูกแส้เฆี่ยน เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะ กำลังปล่อยผมยาวเดินเตร่ในห้องเขา ถลึงตาโตด้วยความตกใจ ใบหน้าซีดขาว

    นางไม่ได้ถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืนแล้วหรือ?

    เหตุใดถึงมาอยู่ในห้องเขาได้?

    หรือว่านางถูกซ้อมจนตาย วิญญาณมาเอาชีวิตเขาแล้ว?

    ผี— หนึ่งคำก็ยังติดอยู่ในลำคอเปล่งออกมาไม่ได้ ปากที่อ้ากว้างของลู่จื่อเฉิงก็ถูกซูหรูเสวี่ยใช้ซาลาเปาอุดไว้แน่น

    ต่อมา นางคว้ากางเกงยาวที่แขวนอยู่ข้างๆอย่างรวดเร็ว มัดลู่จื่อเฉิงติดกับเก้าอี้โดยตรง

    ลู่จื่อเฉิงนิ่งไปชั่วขณะ

    การกระทำของนาง เป็นสิ่งที่คนมีชีวิตถึงจะทำออกมาได้ ดูเหมือนว่านางไม่ใช่วิญญาณร้าย

      แต่ว่า……

    เขาหลุบตามองกางเกงที่มัดอยู่บนตัว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงสดในทันที

    อือๆ! เขาพูดไม่ได้ ทำได้เพียงดิ้นร้นต่อต้าน

    หลังจากที่ขาของเขาพิการ ถึงคืนฝนตกขาก็จะปวดมาก ต้องแช่ยาจึงจะนอนหลับได้ เพื่อสะดวกในการแช่เท้า เขามักจะถอดกางเกงขายาว สวมเพียงกางเกงใน ตอนนี้ถูกหญิงสาวคนนี้เห็นหมดแล้ว!

    ขณะนี้ ลู่จื่อเฉิงเกิดความคิดอยากฆ่าคนแล้ว

    ซูหรูเสวี่ยได้ยินเสียงอู้อี้ของเขาก็หงุดหงิด ฟาดหนึ่งฝ่ามือลงที่ศีรษะโดยตรง เงียบหน่อย ไม่งั้นข้าตอนเจ้าแน่!

    หลู่จื้อเฉิง ...

    ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ?

    ถึงกับกล้าตีเขา?

    ยังขู่ว่าจะตอนเขาอีก?!

    ลู่จื่อเฉิงแทบจะโกรธตาย แต่ก็กลัวซูหรูเสวี่ยจะพูดจริงทำจริง ตอนเขาทิ้ง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าบุ่มบ่ามทำได้เพียงโกรธอยู่เงียบๆ

    ซูหรูเสวี่ยหิวจะตายแล้ว นั่งที่โต๊ะก็เริ่มกินซาลาเปาอย่างตะกละตะกลาม

    ลู่จื่อเฉิงเห็นท่าทางการกินที่ไร้ความสง่างามนั้นของนางก็ รังเกียจอย่างมาก ผู้หญิงแบบนี้ จะคู่ควรกับพี่สามของเขาได้อย่างไร!

    ซูหรูเสวี่ยกินอิ่มดื่มพอแล้ว ถึงหันหน้าไปสำรวจลู่จื่อเฉิง

    ถึงแม้เจ้าของร่างเดิมตาย เกี่ยวข้องกับไหฺวอ๋องคนนี้ไม่มากก็น้อย แต่ในความเป็นจริงเขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตสดใส วีรบุรุษที่ช่วยบ้านเมืองและราษฎร์

    เขายังเป็นบุตรสุดที่รักของหวงกุ้ยเฟยคนปัจจุบัน เพิ่งจะอายุยี่สิบปี ติดตามลู่เป่ยหานราชาสงครามยกทัพจับศึกตั้งนานแล้ว

    สองปีก่อนเขาและลู่เป่ยหานถูกซุ่มโจมตีด้วยกัน ดวงตาทั้งคู่ของลู่เป่ยหานสูญเสียการมองเห็น และเขาก็ลงเอยด้วยขาทั้งสองพิการ

    ซูหรูเสวี่ยมองถังที่เขาแช่เท้า คิดในใจว่านี่เพิ่งจะยี่สิบปีก็นั่งรถเข็นแล้ว ถึงวัยจิตใจฮึกเหิม กลับขี่ม้าฆ่าศัตรูไม่ได้อีก นางอดไม่ได้จะรู้สึกเห็นใจเล็กน้อย

    อันที่จริงสันดานของลู่จื่อเฉิงไม่แย่ ก็แค่ถูกมนของน้องสาวใสซื่อบริสุทธิ์ของเจ้าของร่างเดิมนั้นทำให้ตาบอด ถึงแม้การตายของเจ้าของร่างเดิมเกี่ยวข้องกับเขา แต่ไม่ใช่เขาจงใจสร้างขึ้น

    คิดดูแล้ว ระหว่างสองคนก็ไม่นับว่าเกี่ยวข้องอะไร

    ยิ่งกว่านั้น หวงกุ้ยเฟยรักใคร่เอ็นดูลู่จื่อเฉิงมาก ตอนนี้ตนเกิดใหม่แล้ว ภายหน้าคงจะต้องใช้ชีวิตโดยการมองสีหน้าของหวงกุ้ยเฟย ทว่าสู้ช่วยลู่จื่อเฉิงสักหน่อย ก็นับว่าหาผู้ช่วยคนหนึ่ง

    คิดอยู่แบบนี้ ซูหรูเสวี่ยเช็ดมือที่เปื้อนน้ำมันหลังจากกินซาลาเปาแล้วลุกขึ้น

    ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เป็นสะใภ้สามของเจ้า ในฐานะผู้อาวุโส เห็นรุ่นเด็กอย่างเจ้าทนทุกข์ไม่ได้จริงๆ เฮ้อ วันนี้ข้าจะเมตตา ช่วยเจ้ารักษาขาที่ปวดเพราะความเย็นบ่อยๆแล้วกัน!

    บทที่ 3

    Enjoying the preview?
    Page 1 of 1